ยินดีต้อนรับ

วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสโมสร

1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน

2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา

ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ

3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น

4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน



วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

ชนะเป็นแล้ว!โอเด็มฯยิงโทนมวยโลกตบขมิ้นท์ร่วงคารัง

ในที่สุดก็สะกดคำว่าชนะเป็นสักทีสำหรับเวสต์บรอมวิชที่บุกมาเอาชนะนอริช ซิตี้ได้ถึงถิ่นจากประตูชัยของโอเด็มวิงกี้ด้วยสกอร์ 1-0 แม้ว่าเจ้าตัวจะพลาดจุดโทษก็ตาม ท่ามกลางการเป่าแปลกๆตลอด 90นาทีของฮาลซี่ย์ผู้ตัดสินในเกมนี้ พรีเมียร์ ลีก วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน 2554 สนาม : แคร์โรว์ โร้ด นอริช ซิตี้ 0 : 1 เวสต์บรอมวิช ประตู : 0-1 โอเด็มวิงกี้ น.3 ครึ่งแรก เริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาที เดอ เลทก็มาทำพลาดมหันต์สุดๆจนทีมต้องเสียประตูไปอย่างรวดเร็ว จากจังหวะโยนยาวไปถึงกรอบเขตโทษของนอริช เดอ เลทเข้าถึงบอลก่อนโอเด็มวิงกี้แล้ว แต่ดันไปสองจิตสองใจไม่เคลียร์ไม่ส่ง โหม่งบอลไปเฉยๆ เลยโดนโอเด็มวิงกี้วิ่งตัดหน้าแล้วยิงจังหวะแรกทันที ผ่านมือของรัดดี้นายด่ายวัย 20 ปีเข้าประตูไป ทีมเยือนเฮไปแล้ว 1-0 นาทีที่ 8 โอกาสช่วงต้นเกมนี่น่าลุ้นเหลือเกิน สำหรับนอริชที่ได้ลุ้นตีเสมอจากจังหวะที่เซอร์แมนหลุดกับดักล้ำเข้าไปถึงใน กรอบเขตโทษ ก่อนที่จะเล็งตวัดคืนกลับให้เพื่อนตรงกลาง ติดเซฟของฟอสเตอร์ แต่ไปเข้าทางโฮลท์ที่วิ่งตามมาซ้ำ แต่หลักไม่ค่อยดี ก็เลยยิงออกไปอย่างน่าเสียดายแท้ ช่วง 15 นาทีแรก เกมของนอริชนั้นไม่ค่อยมีอะไรเท่าไร เพราะว่ามักจะจ่ายเสียหรือไม่ก็โดนดักได้ก่อนถึงแนวรับของเวสต์บรอมวิช ส่วนทีมเยือนเกมนี้วางแทคติคโยนยาวให้โอเด็มวิงกี้วิ่งไปป่วยหน้ากรอบเขตโทษ ซึ่งถือว่าทำให้กองหลังเจ้าบ้านรวนพอดู แบบนี้ถ้าพลาดเหมือนจังหวะแรกก็อาจถึงเสียประตูเลยก็ได้ เข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรก วันนี้เกมของทั้งสองทีมนอกจากช่วง 10 นาทีแรกแล้ว ที่ีเหลือแทบจะไม่มีอะไรให้ลุ้นใ ให้ดูกันสักเท่าไร จนนอริชมามีโอกาสลุ้นจังๆจากลูกเปิดของเทียร์นี่ย์จากด้านข้างให้กับเบน เน็ตต์ได้วอลเล่ย์ด้วยซ้าย แต่ด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ บอลมันก็เลยพุ่งข้ามคานไปไกลโข นาที ที่ 40 เวสต์บรอมวิชเกือบจะมาได้ประตูที่สองนำห่างไปแล้ว ในจังหวะที่ดอร์แรนส์ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ เลยจัดการตะบันเต็มตีน บอลพุ่งแวหกอาการผ่านมือของรัดด์ไปแล้ว แต่อัดเข้าเต็มเสา พอจังหวะเก็บตกมาได้โอกาสยิงอีกครั้ง คราวนี้ตรงตัวรัดด์ แม้จะรับพลาดทำบอลหลุดมือ แต่กองหลังก็ช่วยเคลียร์ทิ้งออกไปได้ทัน จบครึ่งแรก เกมเนือยๆกันทั้งสองทีม แต่ก็เป็นเวสต์บรอมวิชที่ชิงขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม 1-0 ครึ่งหลัง นาทีที่ 51 ไม่รู้ว่าผู้ตัดสินพลาดไปได้ยังไง เพราะจังหวะที่ทามาสโดนเบนเน็ตตพุ่งเข้าเสียบช้าและหนักที่ข้อเท้าด้วย แต่กลับให้เล่นเกมต่อ แถมไม่ได้เป่าเป็นการฟาวล์อีกด้วย เจ้าบ้านนอริชในวันนี้เกมไม่ค่อยมีอะไร พอมีจังหวะที่แทงบอลได้ลุ้นได้หลุด แนวรุกของพวกเขาก็ดูจะเชื่องช้าและอืดอาดพอสมควร จนทำให้พลาดโอกาสในหลายๆครั้งไป ส่วนเวสบรอมวิชก็ฉาบฉวยไปเรื่อย แต่ยังขาดๆเกินๆอยู่เช่นกัน เข้าสู่นาทีที่ 65 ตอนนี้เกมสนุกขึ้นมาทันใด เพราะว่านอริชเปลี่ยนสปีดเกมของพวกเขาขึ้นมาแบบฉับพลัน ทำให้เกมรุกของพวกเขาดีขึ้นมาทันตา กดดันแนวรับของเวสต์บรอมวิชได้ชุดใหญ่ ต้องดูว่าจังหวะสุดท้ายจะทำได้หรือไม่ งานนี้งงกันเป็นไก่ตาแตกทั่วสนาม เพราะว่ามาร์ค ฮาลซี่ย์ผู้ตัดสินในเกมนี้เป่าแปลกมาตลอด เพราะจังหวะน่าฟาวล์กลับเฉย ไม่ยอมเป่า ให้เกมเล่นต่อ แถมจังหวะที่เดอ เลทโดนทางดอร์แรนส์พุ่งเข้าตัดหน้าแข้งแบบเต็มๆชนิดที่้าไม่มีสนับแข้งก็ไม่ อยากจะนึกภาพ ต้องมารอให้นักเตะเตะบอลออกนอกสนามกันเอง ดอร์แรนส์ก็รอดตัวไป ตอนนี้ผู้เล่นนอริชชักจะหัวเสียขึ้นมาเรื่อยๆแล้ว เพราะมีจังหวะโดนดึง โดนฉุดเอาไว้แบบชัดเจน แต่ผู้ตัดสินก็ยังเฉย เหมือนกับว่าลืมหยิบนกหวีดมาจากห้องพักในช่วงพักครึ่งยังไงยังงั้น นาทีที่ 75 ต้องยอมรับเลยว่าฮาลซี่ย์เป่าได้แปลกสุดๆไปเลย จากจังหวะเตะมุมที่เวสต์บรอมวิชโยนเข้าในเขตโทษ รีดได้บอลทางเสาสอง ยืนบังบอลหันหลังให้ประตูแล้วโดนกองหลังของนอริชเข้าแท็คแบบไม่ได้หนักหรือ อะไรมากมาย แถมเจ้าตัวก็ร่วงลงไปง่ายๆ แต่ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษท่ามกลางเสียงโห่ของแฟนบอลเจ้าบ้านที่ไม่เห็น ด้วยแน่นอน แต่สุดท้ายแล้วกลายเป็นรัดด์ที่โชว์ซูเปอร์เซฟปัดลูกยิงของโอเด็มวิงกี้เอา ไว้ได้อย่างเด็ดขาดสุดๆ เกมเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายแบบนี้ นอริชยิ่งเครียดหนัก เพราะนั่นจะทำให้พวกเขาไม่ชนะใครมาตลอดนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา โดยเฉพาะกับการที่เจอทีมระดับใกล้เคียงกันก็น่าจะมีแต้มบ้างในการเล่นในบ้าน นาทีที่ 87 นอริชพลาดโอกาสไป เพราะมอริสันอุตส่าได้โหม่งบอลโล่งๆในกรอบเขตโทษคนเดียวแล้ว แต่เจ้าตัวกลับสะบัดไม่มากพอ ทำให้บอลหลุดกรอบออกไป ได้แค่เสียวเท่านั้น ช่วงท้ายนอริชได้บุกกดดันแบบเต็มที่ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถทวงประตูคืนมาได้ ทำให้พ่ายคารังไปให้กับเวสต์บรอมวิชด้วยสกอร์ 1-0 ผ่าน 4 เกมมีแค่ 2 คะแนน ส่วนเวสต์บรอมวิชคว้า 3 แต้มแรกของฤดูกาลได้สำเร็จ รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม นอริช ซิตี้ : ดีแคลนด์ รัดด์, ริทชี่ เดอ เลท , ลีออน บาร์เน็ตต์, มาร์ค เทียร์นี่ย์, แอนดรูว์ เซอร์แมน(ฮูลาแฮน น.82), แอนดรูว์ ครอฟท์ส, แบรดลี่ย์ จอห์นสัน, เอลเลียตต์ เบนเน็ตต์, คริส มาร์ติน(วอห์น น.70), แกรนท์ โฮลท์(มอร์ริสัน น.70) สำรอง : แอร่อน วิลบราแฮม, เดวิด ฟอกซ์, รัสเซล มาร์ติน, ซิโมน แจ็คสัน เวสต์บรอมวิช : เบน ฟอสเตอร์, โจนาส โอลส์สัน, กาเบรียล ทามาส, นิคกี้ ชอรี่ย์, สตีเว่น รีด , ยุสซุฟ มูลุมบู, พอล ชาร์เนอร์ , เกรแฮม ดอร์แรนส์(มอร์ริสัน น.69), เจอโรม โธมัส(บรันท์ น.84), เชน ลอง(ชอยยี่ น.88), ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้ สำรอง : มาร์ตัน ฟูล็อป, เคร็ก ดอว์สัน, ไซม่อน ค็อกซ์, บิลลี่ โจนส์ http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=478094&sid=151e6f79fdde0f0d76ce558c3fd42c76

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น