ปรีวิวพรีเมียร์ ลีก วันเสาร์ที่ 29 กันยายน 2555

อาร์เซนอล v เชลซี(18.45 น.) โธมัส แฟร์มาเล่นกัปตันทีมอาร์เซนอลจะกลับมาคืนทัพอีกครั้ง หลังหายป่วยแล้ว เอ็มมานูเอล ฟริมปงน่าจะได้มีชื่อด้วย เพราะหายเจ็บหัวเข่าแล้ว แต่เกมนี้ยังเร็วเกินไปที่แจ็ค วิลเชียร์จะลงเล่น จอห์น เทอร์รี่กัปตันทีมเชลซีคาดว่าอาจจะได้ลงเล่นในเกมนี้ เนื่องจากเขาใช้สิทธิ์ในการยื่นอุทธรณ์ต่อสมาคมฟุตบอลอังกฤษที่ตัดสินโทษแบน 4 เกมด้วยข้อหาเหยียดผิวอันทอน เฟอร์ดินานด์ เอด็องน์ อาซาร์และออสการ์น่าจะได้ลงเป็นตัวจริงคู่เลยในเกมนี้ เบน ฟรีคิกฟันธง : อาร์เซนอลชนะ 2-1 ฟูแล่ม v แมนเชสเตอร์ ซิตี้(21.00 น.) รอการอัพเดต .... เบน ฟรีคิกฟันธง : ซิตี้ชนะ 2-0 นอริช v ลิเวอร์พูล(21.00 น.) แอนโธนี่ย์ พิลคิงตันและเซบาสเตียน บาสซงมีโอกาสลุ้นสุงสุดๆที่จะฟิตทันในเกมนี้ อ้างอิงจากคริส ฮิวจ์ตันเองเลย แต่แฮร์รี่ คีนหมดสิทธิ์ลงเล่นแน่นอนแล้ว เพราะเท้าแตกมาจากเกมกับดอนคาสเตอร์เมื่อวันพุธ ด้านลิเวอร์พูลจะไม่มีจอนโจ้ เชลวี่ย์ที่ติดโทษแบน แต่ดาแนล แอกเกอร์มีลุ้นได้ลง แม้จะดูเจ็บหนัก แต่สุดท้ายแค่ช้ำไม่มากเท่านั้น ฟาบิโอ บอรินี่ยัง 50-50 อยู่ว่าจะลงเล่นได้ไหม เพราะมีอาการที่ข้อเท้าอยู่หน่อยๆ เบน ฟรีคิกฟันธง : เสมอ 1-1 เรดดิ้ง v นิวคาสเซิ่ล(21.00 น.) เจสัน โรเบิร์ตสหัวหอกของเรดดิ้งต้องเทสความฟิตก่อนลงเล่นในเกมนี้ หลังหายจากอาการบาดเจ็บที่น่องแล้ว จิมมี่ เคเบ้เองก็ต้องเช็กอีกครั้ง เพราะดันมีปัญหาที่กล้ามเนื้อหลังต้นขาขึ้นมา ฟาบริซิโอ้ โคลอชินี่ปราการหลังของนิวคาสเซิ่ลกลับมาจากอาการบาดเจ็บในเกมกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ได้ แต่ดันเจ็บซ้ำขึ้นมาอีก ชีค ทิโอเต้เองก็กลับมาในเกมนั้นด้วยเช่นเดียวกัน แต่รายนี้สบายดี ส่วนทิม ครูลยังเจ็บต่อไป เบน ฟรีคิกฟันธง : นิวคาสเซิ่ลชนะ 1-0 เอฟเวอร์ตัน v เซาท์แธมป์ตัน(21.00 น.) “ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน” จะเรียกตัวทิม ฮาวเวิร์ด, สตีเว่น พีนาร์และฟีล จาเกียลก้าที่ได้พักไปในเกมพ่ายลีดส์ ยูไนเต็ดในลีก คัพไปกลับมาคืนทีมให้หมด นิกิช่า เยลาวิชกลับมาจากอาการบาดเจ็บในเกมดังกล่าวได้ ส่วนโทนี่ ฮิบเบิร์ตก็พร้อมรบ แจ็ค คอร์คมิดฟิลด์ของเซาท์แธมป์ตันหมดสิทธิ์ลงเล่น เพราะเจ็บที่หัวเข่า ในขณะที่ทาดานารี่ ลีเองก็ต้องนั่งดูเพื่อนเล่นไปก่อนเช่นกัน เพราะมีปัญหาที่ศอก เอ็มมานูเอล มายูก้ายังไม่แน่ว่าจะพร้อมไหม แต่อดัม ลาลาน่าลุยได้แน่ หลังจากกลายเป็นคุณพ่อคนใหม่ไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เบน ฟรีคิกฟันธง : เอฟเวอร์ตันชนะ 2-0 สโต๊ค ซิตี้ v สวอนซี(21.00 น.) ชาร์ลี อดัมมิดฟิลด์ฟันห่างของเจ้าบ้านหายห่วยแล้วและพร้อมลงลุยในเกมนี้ แต่แอนดี้ วิลกินสันจำต้องชดใช้โทษแบนของเขาต่อไปในเกมที่ 2 จากทั้งหมด 3 เกม ชิโก้ ฟลอเรสปราการหลังและเนธาน ไดเออร์ปีกของสวอนซีต่างพร้อมลงเล่น เพราะปลดเปลื้องจากโทษแบนแล้ว โจนาธาน เด กัซแมนและแอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ รวมทั้งปาโบล เอร์นานเดซที่มีปัญหาก่อนหน้านี้ ตอนนี้ไร้ปัญหาในการลงเล่น เบน ฟรีคิกฟันธง : สโต๊คชนะ 3-1 ซันเดอร์แลนด์ v วีแกน(21.00 น.) อดัม จอห์นสันปีกจอมลากของทีมยังไม่แน่ว่าจะได้ลงเล่นในเกมนี้หรือไม่ เพราะมีปัญหาที่ต้นขา คาร์ลอส คูเอญาร์และเซบาสเตียน ลาร์สสันน่าจะได้ลงเล่น หลังจากหายหน้าไปในเกมลีก คัพ แต่ลี คัตเทิลโมลเพิ่งจะเริ่มต้นการโดนแบนยาว 3 นัด อันโตลิน อัลคาราซยังคงต้องฟิตร่างกายเพื่อรอการกลับมาจากอาการบาดเจ็บที่ขาหนีบต่อไป แว่วๆว่าสัก 10 วันน่าจะโอเค เบน ฟรีคิกฟันธง : เสมอ 1-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด v ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส(23.30 น.) อันโตนิโอ วาเลนเซียปีกรถด่วนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังไม่รู้ว่าจะไหวไหมในเกมนี้ เพราะดันไปเจ็บข้อเท้าในเกมกับลิเวอร์พูลมา เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันต้องตัดสินใจว่าเขาจะส่งเวย์น รูนี่ย์ลงเล่นเป็นตัวจริงเลยหรือไม่ หลังกลับมาจากอาการบาดเจ็บได้ในเกมเมื่อกลางสัปดาห์ อังเดร วิลลาส โบอาสกุนซือนั่งยองของทีมจะเรียกเอาแบรด ฟรีเดล, แกเร็ธ เบลและเจอร์เมน เดโฟกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง เพราะได้พักกันไปเต็มอิ่มแล้ว ไคล์ นอจ์ตันเองก็น่าจะคืนทีมเช่นเดียวกัน หลังหายหน้าไปในเกมกับควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์สเมื่ออาทิตย์ก่อน เบน ฟรีคิกฟันธง :แมนฯยูฯชนะ 2-0 http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=677356&sid=2fb00be82def30cf88fe3d2d1c78dcfb

ปรีวิวกัลโช่ เซเรีย อา วันเสาร์ที่ 29 กันยายน 2555

ปาร์ม่า - เอซี มิลาน(23.00 น.) โฮเม่ วัลเดส ปีกจอมเลื้อยทีมปาร์ม่าหมดสิทธิ์สัมผัสยอดหญ้าเนื่องจากติดโทษแบน ขณะที่ ฟาบิโอ ซันตาโครเซ่ และ ราฟาเอลเล่ ปาลาดิโน่ ไม่ไหว มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี บิ๊กบอสเอซี มิลานยังต้องรอเช็กฟิต โรบินโญ่ กองหน้าฉบับกระเป๋าหลังหายเจ็บกลับมาเป็นตัวสำรองเมื่อกลางสัปดาห์ ส่วน อเล็กซานเดร ปาโต้,มาติเยอ ฟลามินี่ และ ซุลเลย์ มุนตารี่ ไม่ไหว ฟันธง เอซี มิลานชนะ 2-1 ยูเวนตุส - โรม่า(01.45 น.) มัสซิโม คาร์เรร่า กุนซือสแตนด์อินทีมยูเวนตุสเตรียมโรเตชั่นหมุนเวียนนักเตะมาใช้ มิร์โค วูชินิช รวมไปถึง อเลสซานเดร มาตรี้ จะจับคู่ยืนหน้าส่งผล ฟาบิโอ กวายาเรลล่า กระเด็นนั่งสำรอง เช่นเดียวกับ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ คัมแบ็กคุมกลาง ซเดเน็ค ซีแมน นายใหญ่โรม่าปราศจาก มาริเล็ม ปายิช และ โดโด้ แต่ได้ ปาโบล ออสวัลโด้ หายเจ็บยืนหอกประสานงานร่วมกับ ฟรานเชสโก้ ต๊อตตี้ ฟันธง ยูเวนตุส ชนะ 1-0 http://www.blogger.com/blogger.g?blogID=607985937808694504#editor/src=sidebar

ปรีวิวลา ลีกา วันเสาร์ที่ 29 กันยายน 2555

บาเลนเซีย - ซาราโกซ่า (21.00 น.) มานูเอล เปเญกริโน่ บิ๊กบอสบาเลนเซียยังต้องรอเช็กฟิต เฟร์นานโด กาโก้ และ เฌเรมี่ มาติเยอ ส่วน เอเวร์ บาเนก้า,ปาโบล พิอัตติ ,ดาบิด อัลเบลด้า และ เซร์คิโอ กานาเลส ไม่พร้อม มาโนโล่ ฆิเมเนซ ผู้จัดการทีมเรอัล ซาราโกซ่าปราศจาก อิบัน ออบราโดวิช แบ็กซ้าย และ อดัม พินเตอร์ อยู่ระหว่างพักฟื้นทั้งคู่ ฟันธง บาเลนเซีย ชนะ 2-1 มาลาก้า - เบติส(23.00 น.) เฌเรมี่ ตูลาล็อง เซนเตอร์แบ็กทีมมาลาก้าโชคร้ายบาดเจ็บอดเล่น ส่วน ดูด้า ยังต้องสงสัยดังนั้น มานูเอล อิเตอร์ร่า จะบัญชาเกมแดนกลางแทน หน้าเป้าเป็น ฮาเบียร์ ซาบิโอล่า ฆอร์เก้ โมลิน่า หัวหอกค่ายเรอัล เบติสน่าจะทวงคืนตำแหน่งตัวจริง ส่วน โฆเอล แคป์เบลล์ และ ดาเมี่ยน ปาร์กิส ติดโทษแบน ด้าน ฆาบี้ ชิก้า รอเช็กฟิต ฟันธง มาลาก้า ชนะ 2-1 โซเซียดัด - บิลเบา(01.00 น.) ดีเอโก้ ไอฟราน ดารากองหน้าเรอัล โซเซียดัดต้องรอรับความเห็นชอบจากแพทย์ประจำทีมอนุญาตให้ออกสตาร์ทหรือไม่ เหมือนๆกับ คอร์ก้า เอลุสตอนโด้ และ โฆเซ่ อังเคล คอร์ก้า อิไรซอส นายทวารจอมหนึบแห่งแอธเลติก บิลเบายังต้องรอเช็กฟิตเช่นเดียวกับ อิยิโก้ เปเรซ ส่วน อันแดร์ และ ฆอน เอณ์เตเน็ตเซ่ ไม่พร้อม ฟันธง โซเซียดัด ชนะ 3-0 เซบีญ่า - บาร์เซโลนา(03.00 น.) โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส มิดฟิลด์เซบีญ่าหายเจ็บไหล่แล้วมีลุ้นตัวจริงเช่นเดียวกับ ดีเอโก้ เปร็อตติ สลัดโรคเดี้ยงน่องพร้อมลุย ตีโต้ บีญาโนบา เฮดโค้ชปราดเปรื่องทีมบาร์เซโลนายินดีต้อนรับ อันเดรส อิเนียสต้า มิดฟิลด์เด็กวิทย์ ส่วน เคร์ราร์ด ปิเก้(ข้อเท้า) และ การ์เลส ปูโยล(เข่า) ไม่ไหว ดังนั้นคู่เซนเตอร์เป็น อเล็กซ์ ซง กับ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ เกมรุกสามประสาม ลิโอเนล เมสซี่,เปโดร โรดริเกซ และ อเล็กซิส ซานเชซ ฟันธง บาร์เซโลนา ชนะ 1-0 http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=677570&sid=2fb00be82def30cf88fe3d2d1c78dcfb

มันโช่ว่าไง!ฮาร์ทจี้เรืออยากได้แชมป์ต้องเล่นอย่างแชมป์

ไม่รู้จะออกมาด่าอีกรอบหรือเปล่า กับการที่โจ ฮาร์ทผู้รักษาประตูของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้กระตุ้นให้เพื่อนร่วมทีมรีบเร่งฟอร์มขึ้นมาเสีย หากหวังที่จะเดินหน้าคว้าแชมป์ต่อไปให้ได้ “เรือใบ” เสมอไป 3 จาก 5 เกมในฤดูกาล แถมยังเสียประตูรวมทุกรายการไปถึง 16 ลูกใน 8 เกม ถือว่าเป็นเรื่องน่าผิดหวังอยู่เหมือนกันสำหรับลูกทีมของโรแบร์โต้ มันชินี่ โดยเฉพาะกับการที่นำไปเทียบกับเมื่อฤดูกาลก่อนที่พวกเขาเก็บคลีนชีตได้ถึง 17 ครั้ง ก่อนเข้าป้ายซิวแชมป์พรีเมียร์ ลีกไป “เราเดินลงสนามด้วยความมั่นใจ เราเป็นแชมป์เปี้ยนส์และเราต้องเล่นให้เหมือนที่แชมป์เปี้ยนส์เล่น” เขากล่าวก่อนเกมเจอกับฟูแล่มในวันเสาร์นี้ “มันคงไม่ง่าย ปีที่แล้วก็ยาก พวกเขาคว้าแต้มไปจากเราได้เมื่อปีก่อน” “ปีก่อนหน้านั้นเราเล่นได้ดีและก็คว่ำพวกเขาได้แบบสบายๆ ฉะนั้นผมคิดว่าเราควรต้องทำแบบนั้นให้ได้” http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=677362&sid=2fb00be82def30cf88fe3d2d1c78dcfb

หยามได้ใจ!ตำนานปืนบอกเดี่ยวนี้ใครเขากลัวตอร์เรสกัน

จอร์จ เกรแฮมอดีตตำนานของอาร์เซน่อลบอกทีมเก่าของตัวเองว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวลกับการเผชิญหน้ากับเฟร์นานโด ตอร์เรสหัวหอกอีแพงของเชลซีในเกมพรีเมียร์ลีกวันเสาร์นี้ อดีตผู้จัดการทีม"เดอะ กันเนอร์ส"เชื่อสนิทใจว่าวันวานที่ดีที่สุดของกองหน้าทีมชาติสเปนได้ผ่านพ้นไปเหมือนสายน้ำไม่อาจย้อนคืน "คุณต้องแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเฟร์นานโด ตอร์เรสในตอนเล่นกับลิเวอร์พูล?"เกรแฮมคุยกับนักข่าวทอล์คสปอร์ต "เขาดูยอดเยี่ยมมาก ป่วนซ้ายทีขวาทีและเข้าโจมตีได้อย่างน่าเกรงขาม เพียงแต่ผมไม่เห็นว่าเขาจะทำแบบนั้นได้อีกแล้ว" "ตั้งแต่เขาย้ายไปเชลซี เขาก็ไม่ใช่ผู้เล่นที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน เขามักต้องการลูกที่จ่ายมาเข้าช่องเท่านั้น" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=677616&sid=2fb00be82def30cf88fe3d2d1c78dcfb

"หมูรูน"เนื้อเต้นแนวรุกผีแย่งตำแหน่งกันมันหยด

เวย์น รูนี่ย์หัวหอกอ้วนพริ้วของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยอมรับว่ารู้สึกตื่นเต้นกับการแย่งชิงโอกาสลงสนามในแดนหน้าปีนี้ หัวหอกทีมชาติอังกฤษเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บมาช่วย"ปีศาจแดง"ทุบนิวคาสเซิ่ลในศึกแคปิตอล วัน คัพโดยถอยมาเล่นในตำแหน่งที่ต่ำกว่าปรกติแต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่าตัวเองยังรู้สึกเป็นกองหน้ามากกว่า "มีการแข่งขันกันอย่างสูงในพื้นที่แดนหน้า"รูนี่ย์เปิดประเด็นกับพีเอ สปอร์ต "มันเป็นเรื่องดีสำหรับทีม โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, แดนนี่ เวลเบ็ค, ชินจิ คากาวะ, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซและตัวผมต้องต่อสู้เพื่อที่ว่าง 1-2 ที่มันเป็นเรื่องดีสำหรับทีมจริงๆ" "ผู้จัดการทีมจะโรเตชั่นเมื่อเขารู้สึกว่าเป็นสิ่งจำเป็น ผมเพียงแค่มองไปข้างหน้าเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเกมทั้งในพรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ลีก" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=677619&sid=2fb00be82def30cf88fe3d2d1c78dcfb

จากใจเอสเซียง : "เชลซีจะผงาดแชมป์พรีเมียร์ลีก"

สำหรับ มิกาเอล เอสเซียง มิดฟิลด์ฮาร์ดแมนย่อมรู้ดีว่านี่คือความท้าทายความสามารถรวมถึงการได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆกับการมีโอกาสรับใช้ เรอัล มาดริด หนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก หลังออกจาก เชลซี มาค้าแข้งในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาบิวในแบบสัญญายืมตัวเมื่อช่วงเดดไลน์เดือนที่ผ่านมา แข้งวัย 29 ปีพร้อมเปิดใจเป็นครั้่งแรกต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นและจุดมุ่งหมายในอนาคต เดือนแรกในฐานะนักเตะเรอัล มาดริด แน่นอนเลยว่าแทบจะซ่อนความรู้สึกยินดีปรีดาไม่ไหวกับการที่เขาได้สวมยูนิฟอร์มชุดขาวภายใต้บัญชาการของ โจเซ่ มูรินโญ่ เอสเซียง : ผมใจจดใจจ่อที่กำลังจะมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมและป้องกันแชมป์ลา ลีกาเอาไว้ได้ เกมวันอาทิตย์นี้ มาดริด เปิดบ้านรอรับการมาเยือน เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า ที่ซานติอาโก้ เบร์นาบิว รู้สึกอย่างไรที่จะได้เล่นต่อหน้าแฟนบอล เอสเซียง : เราชนะสองเกมติดต่อกัน และเราหวังจะเก็บชัยอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นไปอีก ในฐานะแข้งมาดริดคนใหม่พอจะบอกได้หรือไม่ว่าทำไมสโมสรนี้จึงแตกต่างจากทีมอื่นๆ เอสเซียง : เรากำลังคุยเรื่องที่เกี่ยวกับ เรอัล มาดริด นี่คือสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ไม่ว่านักเตะคนไหนปราถนาจะมาเล่นที่นี่ทั้งนั้น แล้ววินาทีที่ดีที่สุดในวันที่กลายเป็นนักเตะมาดริดเต็มตัว เอสเซียง : ทุกๆคนดีต่อผมมาก ยิ่งได้มาร่วมฝึกซ้อมและพบกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ เราเล่นมุขอย่างเป็นกันเอง ผมมีความสุขกับการฝึกซ้อมแต่ละครั้งในทุกๆวัน ช่วยบอกคุณสมบัติเฉพาะตัวของคุณส่งผ่านสู่ทีมนำไปสู่ความสำเร็จ เอสเซียง : นอกสนามเป็นคนนิ่งและใจเย็นแต่ในสนามผมจะกลายเป็นคนละคน ขอให้จับตาดูผมแล้วทุกคนจะรู้จักผม อีกปัจจัยนึงที่ทำให้คุณสามารถปรับตัวเข้ากับสไตล์ของทีมได้อย่างรวดเร็วมากก็คือ โจเซ่ มูรินโญ่ ซึ่งมีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมาก เอสเซียง : มันเจ๋งเลยล่ะ ผมเรียกเขาเป็นพ่อ นี่คือความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมที่ได้ทำงานร่วมกับเขาอีกครั้ง เขาคือโค้ชที่รู้จักผมดีที่สุด เขาพาผมมาสู่ เชลซี ดังนั้นเขารู้คุณภาพของผมและสิ่งที่ผมสามารถสร้างคุณประโยชน์ได้ ผมดีใจที่อยู่ภายใต้บัญชาของเขาอีกครั้ง เขาหวังว่าเราจะสู้ไปด้วยกันเพื่อคว้าแชมป์มากมายให้ เรอัล มาดริด ลา ลีกา เป็นลีกที่มีการแข่งขันเข้มข้น เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญ่า จะเป็นอีกบททดสอบใหม่สำหรับ เรอัล มาดริด ในวันอาทิตย์นี้ เอสเซียง : เราออกสตาร์ทได้ตะกุกตะกักแต่บางครั้งคุณย่อมตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้อยู่แล้ว ตอนนี้เราชนะสองนัดรวด ดังนั้นผมหวังว่าเราจะเก็บชัยอย่างต่อเนื่องเป็นเกมที่สาม ทุกๆแมตช์มีความสำคัญหมด เราจำเป็นต้องชนะมากขึ้นและกอบโกยแต้ม เราจะสู้เพื่อตำแหน่งแชมป์ แล้วความแตกต่างระหว่าง ลา ลีกา และ พรีเมียร์ลีก ล่ะ เอสเซียง : ลา ลีกา เปนหนึ่งในลีกที่สำคัญที่สุดและยากที่สุดในยุโรป หลายๆคนพากันกล่าวถึงพรีเมียร์ลีกยอดเยี่ยมเพียงใด แต่ลีกสเปนสนุกกว่านะ คุณได้เล่นฟุตบอลมากกว่าและคุณสามารถยิงประตูเยอะขึ้น ทำให้แฟนบอลสนุกสนาน ผมเองใจจดใจจ่อกับการมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมและช่วยทีมป้องกันแชมป์ พูดถึงพรีเมียร์ลีกของคุณบ้าง คุณคิดว่าฤดูกาลนี้ใครจะคว้าแชมป์ เอสเซียง : เชลซี อยู่แล้ว พวกเขามีโอกาสสูงเลยล่ะ แต่คุณไม่มีทางรู้ได้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นในพรีเมียร์ลีก ถึงกระนั้นผมเลือกพวกเขาเป็นแชมป์ก็แล้วกัน สุดท้ายแล้ว คุณเคยประกาศเอาไว้ว่าหลังแขวนสตั๊ดแล้ว คุณอยากทำงานเกี่ยวกับการช่วยเหลือสังคม เอสเซียง : นั่นจะทำให้ผมมีเวลาในการทำงานมากขึ้นเกี่ยวกับกองทุนการกุศลของผมรวมถึงพยายามช่วยเหลือเด็กๆและสาธารณูปโภคที่จำเป็นใน กานา ประเทศบ้านเกิดของผม นี่คือความท้าทายท๋่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมเมื่อหันหลังให้กับวงการฟุตบอลไปแล้ว http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=677621&sid=2fb00be82def30cf88fe3d2d1c78dcfb

แปลกใจไหม?แข้งไก่ก่อหวอดไม่พอใจการทำงานนั่งยอง

ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์กำลังเจอปัญหาภายในเล่นงานหลังเหล่านักเตะไม่พอใจวิธีการทำงานของอังเดร วิลลาส-โบอาสนายใหญ่นั่งยอง อดีตบิ๊กบอสเชลซี หลังจากกุนซือชาวโปรตุกีสเพิ่มตารางการฝึกซ้อมมากขึ้นเป็น 2 เท่า นอกจากนี้ยังมีรายงานเปิดเผยด้วยว่า "เอวีบี" มีปัญหาไม่ลงรอยกับทิม เชอร์วู้ด ผู้ประสานงานด้านเทคนิคของทีม โดยเขาไม่เปิดโอกาสให้นายทวารรายนี้ได้ทำงานแต่อย่างใด เหล่านักเตะภายในทีมเริ่มส่งเสียงบ่นถึงตารางการฝึกซ้อมที่หนักหนาสาหัสเกินไป โดยเพิ่มมากขึ้นถึง 2 เท่า และนั่นรวมถึงการฝึกซ้อมก่อนเกมจะเริ่มต้น 24 ชั่วโมงด้วย ซึ่งนั่นทำให้เกิดความเหนื่อยล้า และพวกเขาไม่สามารถทำผลงานได้อย่างเต็มที่ในพรีเมียร์ ลีก บรรดาแข้งท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ที่แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ปลุกปั้นเล่นเกมรุก ยังไม่พอใจแนวทางการเล่นของทีม ที่อังเดร วิลลาส-โบอาสเข้ามาเปลี่ยนแปลง โดยพวกเขาต้องการที่จะเล่นในระบบที่ให้อิสระในการโจมตีคู่แข่งมากกว่านี้ สำหรับโบอาสในช่วงที่เขาคุมทีมเชลซีนั้น ก็ได้มีรายงานเปิดเผยว่าเหล่าแข้งซีเนียร์ไม่พอใจที่โดนหั่นออกจากทีม โดยเฉพาะแฟรงค์ แลมพาร์ดมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษนั่นเอง http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=677624&sid=2fb00be82def30cf88fe3d2d1c78dcfb

ชินจังเร้าแข้งสิงห์โชว์ให้เห็นว่าอยู่ได้โดยไม่มี'แมลงสาบ'

โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอเทรนเนอร์เชลซีกระตุ้นนักเตะในทีมให้บดขยี้เอาชัยจากอาร์เซน่อลเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาสามารถชนะในเกมใหญ่โดยไม่ต้องมีดิดิเยร์ ดร็อกบาอีกแล้ว ดร็อกบาเป็นคีย์แมนสำคัญที่ช่วยผลักดัน"สิงห์บลูส์"ให้ก้าวไปครองบัลลังค์แชมเปี้ยนลีกส์เมื่อซีซั่นก่อนแต่การจากไปของเขาทำให้ทีมเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และดิ มัเตโอหวังให้ลูกทีมโชว์ให้พวกเขาสามารถอยู่ได้แม้ไร้ซึ่งกองหน้าไอวอรี่โคสต์ "ดร็อกบาเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมสำหรับสโมสรมานานหลายปีแต่เราต้องก้าวออกจากส่วนนี้ได้แล้ว"ดิ มัตเตโอกล่าว "นั่นคืออดีตที่ผ่านมา ตอนนี้เราต้องมองไปยังอนาคตข้างหน้า" ในวันเสาร์เชลซีมีคิวฟาดแข้งกับอาร์เซน่อลซึ่งเป็นทีมที่โดนดร็อกบากระทุ้งประตูมากถึง 13 ลูกจากการเจอกัน 14 เกมเล่นเอาอาร์แซน เวนเกอร์เทรนเนอร์ของกันเนอร์สต้องบอกว่า"ผมไม่รู้ว่าเชลซีคิดถึงเขาไหม แต่เราไม่คิดถึงเขาแน่" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=677625&sid=2fb00be82def30cf88fe3d2d1c78dcfb

ได้ย้ายแน่!''บัง''เดือดวางมวยเปตรุชชี่กลางสนามซ้อม

อนาคตของหลุยส์ นานี่ปีกอินดี้สังกัดแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคืบคลานเข้าสู่ด้านมืดอีกหนึ่งก้าว หลังมีรายงานเปิดเผยว่าเขาหวิดจะวางมวยกับดาวิเด้ เปตรุชชี่นักเตะจากทีมสำรองกลางสนามซ้อม เดือดร้อนเพื่อนร่วมทีมต้องรีบเข้ามาห้ามทัพ ปีกทีมชาตุโปรตุเกสวัย 25 ปีได้เปิดฉากปะทะคารมณ์กับเปตรุชชี่ในวัย 20 ปีอย่างดุเดือดกลางสนามซ้อมแคร์ริงตั้นของยูไนเต็ด โดยเหตุการณ์นี้เริ่มจากการเข้าปะทะกันของทั้งคู่ เหล่านักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหลายคนต้องรีบเข้ามาแยกทั้งคู่ออกจากกัน โดยแหล่งข่าวแฉว่านานี่ได้เหวี่ยงหมัดของเขาใส่ดาวรุ่งสัญชาติอิตาลีอีกด้วย การปะทะกันครั้งนี้ไม่ส่งผลดีต่ออนาคตของหลุยส์ นานี่ในรั้วโอลด์ แทรฟฟอร์ดอย่างแน่นอน โดยเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันนั้นเป็นคนที่ต้องการให้นักเตะของเขามีระเบียบวินัยทั้งในสนามแข่งขัน, สนามซ้อมรวมไปถึงชีวิตจริงอีกด้วย ก่อนหน้านี้การเจรจาสัญญาฉบับใหม่ของ นานี่ซึ่งรับค่าเหนื่อยอยู่ที่ 90,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ต้องเป็นหมันไป หลังจากที่เขาเรียกเงินเพิ่มเป็น 130,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ และคาดว่าหากมีสโมสรใดยอมจ่าย 25 ล้านปอนด์เพื่อเป็นค่าตัวของเขา ทางยอดทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ก็จะยอมปล่อยออกไปทนทีในช่วงเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=677627&sid=2fb00be82def30cf88fe3d2d1c78dcfb

สรุปผลฟุตบอลประจำวันที่ 7 สิงหาคม 2555

ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป (Group A) Croatia 1 - 0 Rep. of Macedonia Wales 0 - 2 Belgium ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป (Group B) Malta 0 - 1 Armenia Bulgaria 2 - 2 Italy ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป (Group C) Kazakhstan 1 - 2 Rep. of Ireland Germany 3 - 0 Faroe Islands ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป (Group D) Estonia 0 - 2 Romania Andorra 0 - 5 Hungary Holland 2 - 0 Turkey ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป (Group E) Albania 3 - 1 Cyprus Slovenia 0 - 2 Switzerland Iceland 2 - 0 Norway ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป (Group F) Russia 2 - 0 Northern Ireland Azerbaijan 1 - 1 Israel Luxembourg 1 - 2 Portugal ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป (Group G) Liechtenstein 1 - 8 Bosnia-Herzegovina Lithuania 1 - 1 Slovakia Latvia 1 - 2 Greece ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป (Group H) Montenegro 2 - 2 Poland Moldova 0 - 5 England ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป (Group I) Georgia 1 - 0 Belarus Finland 0 - 1 France http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=663557&sid=0c0d9ff061cf93d65d0a51d9da14d012

เลิกงมงาย!หงส์ถกเครียดผุดชื่อ"ราฟา"เสียบตาหวาน

"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลกำลังหารือกันอย่างหนักภายในสโมสรและมีชื่อของราฟาเอล เบนิเตซเอลบอสสมองเพชรถูกหยิบยกขึ้นมาหารือเพื่อหวังดึงตัวมาคุมทัพแทนที่เบรนแดน รอดเจอร์สกุนซือตาหวาน อาส สื่อชื่อดังแดนกระทิงดุรายงานข่าวว่าชื่อของกุนซือชาวสแปนิชกำลังถูกนำมาหารือกันในทีมลิเวอร์พูลหลังสโมสรออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ได้อย่างย่ำแย่ภายใต้การทำทีมของรอดเจอร์ส กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือเพิ่งเข้ามารับเผือกร้อนต่อจากเคนนี่ ดัลกลิชนายใหญ่พาส แอนด์ มูฟทว่ากลับพาทีมเก็บได้เพียง 1 แต้มจาก 3 นัดแรกซึ่งถือเป็นผลงานที่ย่ำแย่ที่สุดของสโมสรตั้งแต่ฤดูกาล 1962-63 ปัจจุบันเบนิเตซกำลังว่างงานอยู่และเขาก็ออกโรงยืนยันมาโดยตลอดว่าต้องการกลับมาทำงานในเมืองผู้ดีอีกครั้ง อดีตกุนซือบาเลนเซียเคยคุมยอดทีมแห่งถิ่นแอนฟิลด์มาแล้วระหว่างปี 2004-2010 โดยประสบความสำเร็จพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย,คอมมูนิตี้ ชิลด์ 1 สมัย,ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัยและยูฟ่า ซูเปอร์ คัพอีก 1 สมัย http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=663094&sid=0c0d9ff061cf93d65d0a51d9da14d012

บี้ฮีโร่!ไก่จิกฟินแลนด์ประเดิมเดเด้คุมทัพ 1-0

ดิดิเยร์ เดอชองส์ต้องลุ้นลูกทีมหนักก่อนเก็บ 3 แต้มเป็นประเดิมสำหรับตำแหน่งกุนซือทัพ"ตราไก่"ได้แบบต้องออกแรงเหนื่อยจากประตูโทนในช่วงครึ่งแรกของอาบู ดิยาบี้มิดฟิลด์ก้านยาวในนาทีที่ 20 ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่มไอ วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2555 ฟินแลนด์ 0-1 ฝรั่งเศส สนาม : เฮลซิงกิ โอลิมเปียสตาดิออน ประตู : อาบู ดิยาบี้ น. 20 คลิปไฮไลท์ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ฟินแลนด์ 0-1 ฝรั่งเศส ดิดิเยร์ เดอชองส์ประเดิมงานคุมทัพทีมชาติฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการพร้อมเส้นทางสู่ฟุตบอลโลก 2014 ของทัพนักเตะ"ตราไก่"โดยในนัดนี้คาริม เบนเซม่าได้ยืนปักหลักในแดนหน้าคอยรับการสนับสนุนจากฟรองค์ ริเบรี่กับเฌเรมี่ เมเนซ 2 ปีกจอมพริ้มและมีโยอาน กาบายปักหลักบงการเกมกลางสนามคู่กับอาบู ดิยาบี้ที่กำลังฟอร์มสด ด้านเจ้าถิ่นไร้สตาร์ดังเข้าข่มมีเพียงแคสเปอร์ ฮามาไลเน่นยืนข่มขวัญกองหลังทีมเยือนเท่านั้น ครึ่งแรก กาบายเสียบหนักโดนเช็คชื่อก่อนเพื่อน โยอาน กาบายที่ได้ลงคุมเกมกลางสนามพยายามเสียบสกัดจังหวะโต้กลับของฟินแลนด์แต่เข้าช้าไปนิดทำให้โดนจดชื่อตั้งแต่นาทีที่15 พี่บี้หลุดยิงพาไก่ขึ้นนำ คาริม เบนเซม่าโชว์สเต็ปลากบอลหลบนักเตะฟินแลนด์ก่อนจ่ายถวายพานสุดสวยให้อาบู ดิยาบี้ที่แอบขึ้นมาอยู่ข้างหน้ายิงสวนตัวลูคัส ฮราเด็คกี้เข้าประตูไปแบบง่ายๆส่งให้ทัพนักเตะแดนน้ำหอมขึ้นนำนาทีที่ 20 เบนเซม่าได้ซัดแต่ติดบล็อกแค่เสียว เป็นเบนเซม่าอีกครั้งที่ได้บอลหลุดมาฝั่งขวาของเขตโทษในนาทีที่ 25 ก่อนซัดด้วยขวาแต่กองหลังของฟินแลนด์พุ่งมาสกัดได้อย่างหวุดหวิด เจ้าถิ่นแอบส่องโญริสตะครุบหนึบ แคสเปอร์ ฮามาไลเน่น กองหน้าโดดเดี่ยวของฟินแลนด์ ได้จังหวะรับบอลทะลุช่องจากแดนกลางก่อนหาจังหวะสับไกแบบไม่ต้องจับแต่บอลพุ่งเข้าซองของโญริสที่ล้มตัวรับสบาย ไก่โหมบุกหนักเจ้าถิ่นตั้งรับรอสวน หลังจากได้ประตูนำ"เลส์ เบลอส์"ยังคงครองเกมส่วนใหญ่เอาไว้ได้แต่กลับทำได้แค่เสียไม่มีจังหวะส่องงามๆเท่าไรนักส่วนเจ้าถิ่นก็ได้โต้ขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังไม่ผ่านแผงหลังของอาคันตุกะที่ดักทางไว้ได้หมด ครึ่งหลัง กาบายส่องไกลชนเสาดังสนั่น ผ่านครึ่งหลังมา 5 นาทีถึงคราวโยอัน กาบายงัดอาวุธเด็ดออกมาโชว์บ้างเมื่อได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนตัดสินใจปั่นไซ้ก้อยบอลพุ่งวาบเกือบเสียบสามเหลี่ยมขวามือแล้วแต่ลูคัส ฮราเด็คกี้มือกาวเจ้าถิ่นพุ่งสุดตัวปัดบอลไปชนเสารอดพ้นการเสียประตูที่ 2 หวุดหวิด เดอชองส์พักเมเนซส่งวัลบูเอน่าเลื้อยแทน มาติเยอ วัลบูเอน่ากองกลางร่างจิ๋วได้โอกาสลงสนามโชว์ฟอร์มเลื้อยบริเวณริมเส้นแทนตำแหน่งของเมเนซที่เล่นไม่ค่อยออกได้พักในนาทีที่ 62 ไก่เกือบโดน!ฮามาไลเน่นซัดเผาชนเอ็มบีว่าติดบล็อกเอ็มบีว่า ถัดมาเพียงนาทีเดียวมาปู ย็องก้า เอ็มบีว่าเซฟชีวิต"ตราไก่"หวุดหวิดเมื่อกระโดดบล็อกลูกยิงจังหวะสุดท้ายระยะเผาขนของฮามาไลเน่นคนเดิมก่อนบอลปลิ้นออกหลังประตูไปแบบได้ลุ้น ฟินแลนด์เปิดหน้าบุกส่งหอกเพิ่มรอส่องไก่ เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายเจ้าถิ่นไม่มีทางเลือกต้องขยับเกมส่งยาซี่ คูกิกองหน้าร่างใหญ่ลงมาเล่นลูกกลางอากาศแทนฮามาไลเน่นที่โชว์มีโอกาสแต่จบไม่ลง 2 ครั้งในเกมนี้ โญริสซูเปอร์เซฟไก่รอดโดนตีเจ๊า ก่อนหมดเวลา 6 นาทีอูโก้ โญริสได้ขยับออกแรงบ้างเมื่อต้องยกมือขึ้นมาปัดลูกโหม่งระยะไม่กี่หลาของทิม สปาร์ฟที่กำลังจะเข้าไปกองก้นตาข่ายเป็นลูกตีเสมอให้เจ้าบ้านอยู่แล้ว จบ 90 นาทีพลพรรคนักเตะเมืองน้ำหอมรักษาสกอร์เอาไว้ได้พร้อมเก็บ 3 แต้มประเดิมสนามศึกเวิลด์ คัพ 2014 ได้แบบหืดขึ้นคอ รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม : ฟินแลนด์ : ลูคัส ฮราเด็คกี้,นิคลาส มอยแซนเดอร์,ยูน่า ตอยวิโอ,คารี่ อาร์คิวูโอ,มาร์คุส ฮัลสติ,โรมัน อีเรเมนโก้,เปอร์ปาริม เฮเตมัจ(อเล็กซี่ อีเรเมนโก้น.65),ทิม สปาร์ฟ,อเล็กซานเดอร์ ริง,แคสเปอร์ ฮามาไลเน่น(ยาซี่ คูกิน.77),ตีมู พุคกี้ ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : นิกิ มาเอนปา,เฮนรี ซิลลันปาอา,เปทรี พาซาเน่น,ยูฮานี่ โอยาล่า,ยาร์คโก้ ฮูร์เม่,เปาลุส อรายูริ,ยุคค่า ไรตาล่า,มิก้า วายไรเน่น,ดาเนี่ยล โซลุนด์,โทนี่ โคเลห์ไมเน่น ฝรั่งเศส : อูโก้ โญริส,มาปู ย็องก้า เอ็มบีว่า,ปาทริซ เอฟร่า,มามาดู ซาโก้,อองโธนี่ เรเวแยร์,โยอาน กาบาย(แบลส มาตุยดี้น.77),อันโตนิโอ มาวูบ้า,อาบู ดิยาบี้,ฟรองค์ ริเบรี่(บาเฟติมบี้ โกมิสน.89),คาริม เบนเซม่า,เฌเรมี่ เมเนซ(มาติเยอ วัลบูเอน่าน.62) ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : สตีฟ มองดองด้า,มิเชล ลองโดร้,อดิล รามี่,โลร็องต์ กอสเชียลนี่,กาแอล กลีชี่,คริสตอฟ ฌัลเล่ต์,มักซิม โกนาลงส์,เอเตียนน์ กาปู,โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=663532&sid=0c0d9ff061cf93d65d0a51d9da14d012

พี่เค้าฮ็อต!RVP โขกตุงกังหันโซ้ยไก่งวง 2-0

โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ยังฟอร์มดีมาถึงเกมทีมชาติหลังเป็นคนโขกประตูแรกให้ก่อนลูเซียโน่ นาร์ซิงห์จะยิงมาปิดท้ายให้ฮอลแลนด์เก็บชัยชนะแรกในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกเหนือตุรกีไปได้ 2-0 ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก สนาม : อัมสเตอร์ดัม อารีน่า วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2555 ฮอลแลนด์ 2:0 ตุรกี ประตู : 1-0 ฟาน เพอร์ซี่ น.16, 2-0 นาร์ซิงห์ น.90+3 คลิปไฮไลท์ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เนเธอร์แลนด์ 2-0 ตุรกี ครึ่งแรก กังหันเสียวเว้ย!ไก่งวงเริ่มมามีลุ้นเลย เกมออกสตาร์ทมา 10 นาทีทั้งสองทีมเปิดเแลกกันพอสมควรแต่ตุรกีเรียกว่าได้ลุ้นกว่าอย่างชัดเจนตั้งแต่นาทีแรกเลยจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้ายเปิดเข้ามาที่เสาแรก โทปรัคยืนรออยู่ได้โขกไปเสาสองแต่บอลหลุดออกหลังไปนิดเดียว เกือบพัง!หลังกังหันพลาดหวิด O.G "กังหันสีส้ม"มอบโชคให้ตุรกีซะแล้วจากจังหวะที่โทรันบุกขึ้นมาทางฝั่งซ้ายแล้วเปิดบอลเข้าไปตรงกลาง ครูลออกมาจะตัดบอลแต่อินดี้ออกมาโหม่งบอลตัดก่อนหน้าครูลกลายเป็นบอลจะเด้งเข้าประตูไปดีที่เจ้าตัวไปเตะแก้ตัวออกมาทัน ฮอตต่อเนื่อง!RVP โขกเตะมุมส่งกังหันนำ หลังวิดเสียประตูถัดมานาที 16 ดัทช์ก็มาได้ประตูออกนำกันเลยในจังหวะเปิดเตะมุมทางฝั่งซ้ายโดยสไนจ์เดอร์ เปิดเข้ามาที่เสาแรกมีฟาน เพอร์ซี่วิ่งสอดเข้ามาโหม่งเช็ดไปเสาสองส่งบอลเข้าประตูไปเรียบร้อย ฮอลแลนด์ออกนำแล้ว 1-0 ไหวไหม...ทูรานฉกบอลจากวิลเลียมส์เกือบยิงเจ๊า "ไก่งวง"ตอบโต้กลับมาเป็นระยะหวังจะทวงประตูคืนแล้วก็เกือบได้เช่นกันจากจังหวะที่แนวรับ"กังหัน"พลาดอีกแล้ว วิลเลียมส์ไปออกบอลช้าเจอทูรานวิ่งมาแย่งบอลไปได้ก่อนได้ล่อเป้าครูลเน้นๆเลยแต่ยิงหลุดเสาออกไปเอง ต้องด่าหน่อย!นาร์ซิงห์จ่ายช้าหัวไข่อดล่อเป้า นาที 29 ฮอลแลนด์สวนมาน่าได้ลุ้นเหลือเกินในจังหวะที่นาร์ซิงห์พาบอลขึ้นมาเองตั้งแต่กลางสนามเลยมีร็อบเบนว่างๆทางขวาแต่พี่ท่านไม่จ่ายจนเจอแนวรับตุรกีมาปิดช่องหมดแล้วก่อนจะจ่ายให้ร็อบเบนตอนโดนประกบยิงแต่ก็ติดบล็อก หลังจากนั้นก็เจอรุ่นพี่ด่าตามระเบียบ คาลดิริมโหม่งบอลตกบนคาน ทีมเยือนยังบุกอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกพวกเขาก็ได้ลุ้นอีกแล้วเป็นจังหวะลูกตั้งเตะจากฝั่งซ้ายเข้ามาเป็นคาลดิริมโหม่งบอลลอยโด่งไปตกเอาบอลคานตรงสามเหลี่ยมพอดิบพอดี ครึ่งหลัง เกือบเจ๊า!อัลตินท็อปส่องไกลเจอครูลปัด กลับมาครึ่งหลังนาที 56 ตุรกีเกือบทวงประตูคืนได้ในจังหวะที่บอลขึ้นไปที่หน้าเขตโทษก่อนมาเข้าทางของอัลตินท็อปเลือกกดไกลระยะประมาณ 30 หลาเข้าไปเลยแต่ครูลเองก็ไม่พลาดยังบินปัดเอาไว้ได้อยู่ แฟร์ส่องออกหลังไม่ได้ลุ้น คราวนี้เป็นโอกาสของฮอลแลนด์กันบ้างจากจังหวะขึ้นเกมทางริมเส้นขวาโดนนาร์ซิงห์พาบอลจนมาถึงกรอบเขตโทษก่อนจะเปิดเข้าไปบอลเลยเพอร์ซี่ สไนจ์เดอร์วิ่งมาจะยิงยังโดนแหย่มาเข้าทางแฟร์ลองส่องดูแต่ก็ออกไปไหนไม่รู้ เกือบเจ๊าอีก!ไก่งวงบุกน่าได้ประตู นาที 64 ตุรกีน่าได้ประตูอีกแล้วจากบอลออกมาให้กับทูรานทางขวาดึงจังหวะรอดวลกับวิลเลียมส์ก่อนจะกระชากแล้วเปิดเข้าไปบอลลึกยาวไปถึงเสาสองให้กับเซราแรร์ได้โขกตรงบริเวณเส้นหกหลาแต่กดไม่ลงข้ามคานออกหลัง สไนเจ์เดอร์กดฟรีคิกยังไม่ผ่าน ฮอลแลนด์ได้ลองส่องบ้างอีกครั้งคราวนี้จากลูกฟรีคิกทางซ้ายค่อนข้างไกลหน่อยแต่สไนจ์เดอร์ก็บ่ยั่นลองส่องดูเลย บอลกระเด้งพื้นหนึ่งทีแต่เซนกินยังไม่พลาดพุ่งมาคว้าบอลไว้ได้แบบไม่มีกระฉอก ไก่งวงกดดันหนัก-ดัทช์รอสวน เข้าช่วง 10 นาทีสุดท้ายแล้วดูตุรกีจะได้บุกกดดันมากกว่าแต่ก็เจอจังหวะสวนกลับของฮอลแลนด์เหมือนกันแต่ก็ถือว่ารอดตัวไปได้เพราะจังหวะสุดท้ายของ"กังหัน"ยังต่อกันไม่ติด ตอกฝาโลง!นาร์ซิงห์หลุดเดี่ยวบวกลูกสอง สุดท้ายช่วงทดเจ็บ"กังหัน"ก็มาตอกฝาโลงส่งตุรกีกลับบ้านด้วยการบวกประตูเพิ่มไปอีกจากจังหวะการจ่ายบอลแทงทะลุช่องมาจากแถวๆหน้ากรอบเขตโทษพวกเขาขึ้นหน้าไปให้กับนาร์ซิงห์ใช้สปีดกระชากบอลเข้าเขตโทษไปเดี่ยวๆก่อนจะชิพบอลผ่านเซนกินเข้าประตูไป ฮอลแลนด์ปิดฉาก 2-0 จบเกมฮอลแลนด์ก็ประเดิมเอาชนะตุรกีไป 2-0 ทำให้พวกเขาคว้าสามคะแนนแรกได้แล้วก่อนจะเดินทางไปเยือนฮังการีในวันอังคารหน้า รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม ฮอลแลนด์ : ทิม ครูล, ยานมัท (ฟาน ไรห์จน์ น.45), จอห์น ไฮติงก้า (ฟลาร์ น.86), บรูโน่ มาร์ตินส์ อินดี้, เยโทร วิลเลียมส์, ยอร์ดี้ คลาซี่ (แฟร์ น.50), เควิน สตรูทมัน, เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์, ลูเซียโน่ นาร์ซิงห์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, อาร์เยน ร็อบเบน สำรองไม่ได้ลงสนาม : มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก, มิเชล ฟอร์ม, ยอริส มาร์ไธจ์เซ่น, นิค เฟียร์เกแฟร์, เออร์บี้ เอ็มมานูเอลสัน, ลุค เด ยอง, เยเรมัน เลนส์, คลาส ยาน ฮุนเตลาร์, เดิร์ก เคาท์ ตุรกี : ทอลก้า เซนกิน, ฮาซาน คาลดิริม, เซมี่ห์ คาย่า, โอมาร์ โทปรัค, เอ็มเร่ เบโลโซกลู (ซาฮิน น.60), ฮามิต อัลตินท็อป, ทูนาย โทรัน (เออร์ดิ้ง น.81), อาร์ด้าน ทูราน, เมห์เหม็ด โทปาล, อูมุท บูลุท, เซอร์คาน ซาราแรร์ (ยิลมาซ น.70) สำรองไม่ได้ลงสนาม : เฟห์มี่ เมร์ท กุน็อค, เชนก์ โกเน่น, เบกีร์ อิร์เตกุน, ก็อกคาน โกนุล, เซลชุก อินาน, เมห์เหม็ด เอ็คคิชี่, คาเนอร์ เอร์คิน, ก็อกคาน โทเร่ http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=663534&sid=0c0d9ff061cf93d65d0a51d9da14d012

แลมพ์เบิ้ล!สิงโตตามสั่งยำรองบ่อน 5-0 คัดบอลโลก

ทีมชาติอังกฤษลงประเดิมเกมคัดเลือกฟุตบอลโลกได้สมใจกองเชียร์ เมื่อพวกเขาบุกไปเอาชนะมอลโดว่าด้วยสกอร์ขาดลอย 5-0 จากสองประตูของแลมพาร์ด คว้า 3 คะแนนแรกได้ไร้ปัญหา ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก กลุ่มเอช มอลโดว่า 0 - 5 อังกฤษ สนาม : ซิมบรู สเตเดี๊ยม ประตู :0-1 แลมพาร์ด(จุดโทษ) น.4, 0-2 แลมพาร์ด น.29, 0-3 เดโฟ น.32, 0-4 มิลเนอร์ น.74, 0-5 เบนส์ น.83 คลิปไฮไลท์ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก มอลโดวา 0-5 อังกฤษ ทีมชาติอังกฤษลงประเดิมเกมคัดเลือกฟุตบอลโลกเป็นนัดแรกโดยที่ไม่มีหัวหอกเบอร์หนึ่งอย่างรูนี่ย์ที่ต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บอยู่ เลยจัดเดโฟลงเล่นในแดนหน้า โดยมีเคลฟเวอร์ลี่ย์เป็นตัวปั้นตรงกึ่งกลาง ด้านข้างมีมิลเนอร์กับแชมเบอร์เลนที่วันนี้ได้รับโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับทีม ครึ่งแรก นำเร็วเลยจ๊ะ!แลมพ์ซัดจุดโทษเต็มแรง เริ่มเกมมาได้แค่ 4 นาที อังกฤษก็มีประตูขึ้นนำไปอย่างรวดเร็วเลย จากการที่ผู้เล่นของมอลโดว่าไปทำแฮนด์บอลจนกรรมการเป่าเป็นจุดโทษ แลมพาร์ดรับหน้าที่สังหารอัดเข้าไปเต็มแรง ผู้รักษาประตูพุ่งถูกทางจริง แต่เอาไม่อยู่ "สิงโตคำราม" นำเลย 1-0 ซาไกนายทำอะไร๊!? อีก 3 นาทีต่อมา จริงๆมันน่าจะเป็นจังหวะขึ้นนำห่าง 2-0 ไปแล้วสำหรับอังกฤษ กับจังหวะที่แชมเบอร์เลนกระชากพาบอลหนีตัวประกบตรงริมเส้นได้สวย ก่อนจะเปิดตัดเลียดเข้ากลางไปเสาแรก เดโฟชาร์จเข้ามาแต่ตัวเองอยู่ในสภาพกึ่งไม่พร้อม เลยลังเลว่าจะจับหรือยิงดี สุดท้ายบอลปลิ้นหลุดออกหลังไป ทั้งที่ถ้าปล่อยผ่านก็จะมีแลมพาร์ดชาร์จพลังรอยิงอยู่แล้วเชียว สิงโตดูขี่แต่ไม่ขาด เกมนี้อังกฤษก็ดูจะเหนือกว่าในเรื่องของการครองบอลตามสเต็ปที่เป็นทีมที่ภาษีดีกว่า เพียงแต่เกมของพวกเขาก็ไม่ได้กดดันอะไรทางเจ้าบ้านมากสักเท่าไหร่ แถมยังโดนจังหวะสวนกลับอยู่เนืองๆ เผลอๆเล่นไปเล่นมาทำเพิ่มไม่ได้เดี๋ยวได้ดีช็อกกันพอดี ขอเป็นพระเอก!แลมพ์สอดโขกหล่อๆ 2-0 นาทีที่ 29 ลูกนี้ง่ายๆสบายใจปนความเด็ดขาดขอแลมพาร์ดเลย เมื่อเขาสอดขึ้นไปรอโหม่งลูกเปิดของจอห์นสันที่บรรจงตักลึกเข้าไปในกรอบเขตโทษข้ามหัวกองหลัง ก่อนหล่นปุ้กลงจุดนัดพบที่แข้งเชลซีเข้าโขกผ่านมือของผู้รักษาประตูไปเสียบเสานิ่มๆ 2-0 อังกฤษนำห่างสักที ขาดแล้วสินะ!ซาไกซัดสิงโตไหลมาเทมา อีก 3 นาทีต่อมา เป็นยี่ห้อการค้าของเขาจริงๆสำหรับเดโฟที่ถ้าหากได้ง้างตีนซัดเหมาะๆเมื่อไหร่ล่ะได้เรื่อง กับจังหวะที่แชมเบอร์เลนตะลุยขึ้นหน้า แล้วแทงทะลุช่องให้เดโฟแม้ว่าจะเบี่ยงออกข้างนิดๆ แต่บอลมันเข้าขวาพอดีเลยได้เอี้ยวซัดเน้นๆส่งบอลเบียดเสาแรกไปซุกตาข่ายสวยงาม เกมขาด 3-0 ถ้าไม่ประมาทจนน่าเขกกระโหลก ยังไงเกมนี้คงไม่พลิก สิงโตคุมเกมไปเรื่อย อาจจะเพราะว่าตอนนี้เกมขาดไปแล้ว เลยทำให้สมาธิของผู้เล่นมอลโดว่าตกลงไปจากตอนแรกที่โดนนำแค่ 1-0 เป็นอังกฤษที่ได้ครองบอลค่อนข้างจะเด็ดขาดอยู่ฝ่ายเดียว ดูท่าเกมคงจะจบครึ่งแรกโดยคงสกอร์นี้เอาไว้ เพราะตอนนี้เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายแล้ว จบ 45 นาทีแรก อังกฤษพอจะไหลก็ใส่ไม่ยั้งออกนำไป 3-0 ซึ่งก็เป็นที่คาดกันเอาไว้อยู่แล้ว มาดูกันในครึ่งหลังว่าอังกฤษจะทำเพิ่มหรือไข่แตกหรือไหมเท่านั้นเอง ครึ่งหลัง อังกฤษเปลี่ยนเอาเจอร์ราร์ดกัปตันทีมออกไปพัก แล้วส่งคาร์ริคที่กลับมามีชื่อในทีมชาติอีกครั้งในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์อย่างเป็นทางการลงไปเล่นแทน สิงโตให้ธีโอลงแทนรุ่นน้อง นาทีที่ 59 หลังจากครองบอลไปมาแบบไม่ได้ขยีบสปีดกันอยู่พักใหญ่ อังกฤาก็เปลี่ยนตัวผู้เล่นอีกหนึ่ง ด้วยการส่งจรวดทางเรียบอย่างวัลค็อตต์ลงไปเล่นแทนรุ่นน้องในทีมอาร์เซนอลอย่างแชมเบอร์เลน สิงโตยังนวดไปเรื่อย ตอนนี้เกมก็ยังเป็นของทางอังกฤษที่บุกวันเวย์อยู่ฝ่ายเดียว แม้ว่ามอลโดว่าจะได้สวนบ้าง แต่ก็เหมือนมดกัดเจ็บแสบๆแต่ไม่เป็นอะไรมากมาย ตอนนี้ก็รอว่าเกมจะคงสกอร์นี้ต่อไปหรืออังกฤษจะทำเพิ่มได้ไหม เพราะดูจากการเข้าทำไม่ได้มีอะไรมาก แต่อาจจะเหมือนครึ่งแรกที่พอจะมาก็มากันรวดๆเลย โก๋แดนลงแทนซาไก นาทีที่ 68 อังกฤษเปลี่ยนเต็มแม็กเลย เมื่อตัดสินใจถอดเอาเดโฟที่มีสไตล์โฉบเฉี่ยว ตีนคมออกไป แล้วให้เวลเบ็คที่แม้ความคมจะเป็นรอง(มหาศาล) แต่เรื่องการเก็บบอลและเทคนิคก็ถือว่าพอตัว นึกว่าจะไม่ยิง!สิงโตถ่ายสวยได้เม็ด 4 นาทีที่ 74 เป็นการต่อบอลกันที่สวยงามจนเกือบจะเหมือนดีแต่ป้อล่อไม่เป้นเลยสำหรับอังกฤษ ในจังหวะที่สามหน่ออย่างวัลค็อตต์, เวลเบ็คและเคลฟเวอร์ลี่ย์หลุดขึ้นไป จ่ายบอลต่อกันไปมาไม่ยิงสักที แต่สุดท้ายเป็นการฝืนที่ยอดเยี่ยมเมื่อจ่ายกันไปจนสุดที่วัลค็อตต์ซึ่งส่งย้อนกลับหลังไปที่มิลเนอร์สอดขึ้นมาบรรจงแปเน้นๆส่งบอลเลียดผ่านมือนามาสโก้ที่วันนี้หมดสิทธิ์รับทุกลูก เกมขาดไปอีกขั้ร 4-0 สิงห์แอบกลุ้ม!เจทีเจ็บ อีก 2 นาทีต่อมา กลายเป็นเชลซีต้องมานั่งคิดมากกันสักหน่อย เมื่อเห็นภาพที่เทอร์รี่ลงไปนั่งกับพื้นสนามทำหน้าเซ็งเกลเพราะน่าจะมีอาการบาดเจ็บกำเริบขึ้นมา ซึ่งก่อนหน้าที่จะลงเล่นในเกมนี้ เจ้าตัวก็เพิ่งจะผ่านความฟิตแบบเฉียดฉิวมาด้วย เม็ด 5 มาแล้ว!เบนส์ยิงเฮงได้เฮกับเพื่อน นาทีที่ 83 แม้ว่าจะเฮงๆอยู่หน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นประตูอยู่ดีกับลูกยิงฟรีคิกของเบนส์ที่พยายามจะปั่นให้โค้งหนีกำแพง แม้บอลจะไปติดซะก่อน แต่กลายเป็นดีเมื่อแฉลบเปลี่ยนทางพุ่งย้อยไปซุกเสาแรก น่าสงสารนามาสโก้เสียจริง สกอร์เละ 5-0 จบ 90 นาที เป็นอังกฤษที่เก็บ 3 คะแนนพร้อมกดประตูตุนไว้ได้เยอะอย่างที่หวังเอาไว้ เมื่อเป็นฝ่ายเอาชนะมอลโดว่าไปขาดลอย 5-0 เริ่มต้นการคัดเลือกฟุตบอลโลก 2014 ได้สวยเหมือนกันสำหรับฮอดจ์สัน รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม มอลโดว่า : สตานิสลาฟ นามาสโก้ 2, อีกอร์ อาร์มาส 3, วิตตอร์ โกโลวาเทนโก้ 3, อเล็กซานดรู อีพูเรียนู 2, เซอร์กี้ โควาลชุค 3, ซีเมียน บัลการู 3, อเล็กซานดรู โอนิก้า3, อเล็กซานดรู กัตแคน 4, อเล็กซานเดอร์ ซูโวรอฟ5(เดดอฟ 4 น.45), อาร์ตัวร์ ปาทราส5, อีกอร์ ปิคุสซิแอ็ค 4(ซิโดเรนโก้ 4 น.76(ออฟซีนิตอฟ - น.85) ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : เซอร์กี้ ปาสเซนโก้, อันเดรียน เกนไก, เปรตู ราคู, วิตาลี บอร์ดิยาน, ยูเกนนุย เซโบตารู, อเล็กซานดรู ปาสเซนก้, สตานิสลาฟ อีวานอฟ, อนาโตลี โดรอส, เซอร์กี้ อเล็กซีฟ อังกฤษ : โจ ฮาร์ท 6, เกล็น จอห์นสัน 7.5, เลจ์ตัน เบนส์ 7.5, โจเลี่ยน เลสค็อตต์ 5.5, จอห์น เทอร์รี่ 5.5, สตีเว่น เจอร์ราร์ด 7(คาร์ริค 6 น.45), เจมส์ มิลเนอร์ 7, แฟรงค์ แลมพาร์ด 8, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ 7, อเล็กซ์ อ๊อกเหลด แชมเบอร์เลน 8*(วัลค็อตต์ 5 น.58), เจอร์เมน เดโฟ 7(เวลเบ็ค 6 น.68) ตัวสำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : จอห์น รัดดี้, แจ็ค บัตแลนด์, ไคล์ วอล์คเกอร์, ไรอัน เบอร์ทรานด์, แกรี่ เคฮิลล์, ฟีล จาเกียลก้า, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=663535&sid=0c0d9ff061cf93d65d0a51d9da14d012

ออสวัลโด้เบิ้ล!เลี่ยนพลิกแซงแต่ยันไม่อยู่เจ๊า 2-2

"อัซซูรี่" อิตาลี ดีกรีรองแชมป์ยูโรปีล่าสุดเริ่มต้นได้อย่างทุลักทุเลโดนยิงไปก่อนตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกก่อนพลิกแซงทว่าอุดไม่อยู่เจอลูกฮึด บัลแกเรีย ไล่ตามตีเสมอ 2-2 ในนัดประเดิมศึกเวิลด์ คัพ 2014 รอบคัดเลือก ผลฟุตบอลเวิลด์ คัพ 2014 รอบคัดเลือก วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2555 บัลแกเรีย 2-2 อิตาลี ประตู: 1-0 สตานิสลาฟ มาโนเลฟ น.30,1-1 ปาโบล ออสวัลโด้ น.37,1-2 ปาโบล ออสวัลโด้ น.40,2-2 จอร์จี้ มิลานอฟ น.66 คลิปไฮไลท์ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก บัลแกเรีย 2-2 อิตาลี ครึ่งแรก เปิดฉากค่อนข้างสูสี บัลแกเรีย รูปเกมไม่เป็นรองจนกระทั่งนาที 18 ได้ทักทายก่อน กาดเซฟ หลุดเข้าไปยิงด้วยเท้าขวาเดือดร้อน บุฟฟ่อน นายทวารต้องออกแรงเซฟ อีกสองนาทีถัดมาเป็นทีของ "อัซซูรี่" บ้างจากจังหวะ มิลานอฟ ทำฟาวล์ ปิร์โล กรรมการเป่าฟรีคิกเยื้องทางซ้าย ปิร์โล่ รับหน้าที่ปั่นไซด์หนีกำแพงหลุดกรอบ ผ่านมาถึงครึ่งทางครึ่งแรกเจ้าถิ่นมีโอกาสใกล้เคียงจะได้ประตูขึ้นนำมากที่สุด การ์โกรอฟ เปิดฟรีคิกทางขวาหยอดมายังเสาแรก อิวานอฟ ตวัดยิงด้วยเท้าขวาบอลกำลังจะเสียบตาข่ายอยู่แล้วแต่ บุฟฟ่อน ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดปลายมือ ผ่านมาครึ่งชั่วโมง บัลแกเรีย กลับได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างไม่คาดฝันจากจังหวะ มาโนเลฟ สับไกยิงด้วยเท้าขวาเยื้องทางขวาระยะ 35 หลาบอลกระดอนตกลงพื้นหนีมือ บุฟฟ่อน นายทวารพุ่งสุดตัวแล้วแต่เอื้อมไม่ถึงตุงตาข่าย พอเสียประตู อิตาลี ลุยแหลกหวังทวงคืนกระทั่งนาที 37 ตามตีเสมอสำเร็จ 1-1 โบนุชชี่ โยนโด่งมากลางประตู มาร์คิซิโอ โหม่งเช็ดให้ ออสวัลโด้ ลากเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษทางซ้ายสวนตัวนายทวาร มิเฮลอฟ ตุงตาข่าย หลังตีเสมอได้คราวนี้ "อัซซูรี่" คึกใหญ่เลยส่วนเกมรับของเจ้าถิ่นปั่นป่วนคุมไม่ติดอีกสามนาทีถัดมา อิตาลี พลิกแซงนำ 2-1 จาคเครินี่ หลุดโล่งๆมาทางซ้ายก่อนบรรจงเปิดไปหน้าปากประตู ออสวัลโด้ ล้มตัวโหม่งบอลไปแฉลบขากองหลังบัลแกเรียเปลี่ยนทางเข้าเสียบเสาล่างซ้ายชนิดที่นายทวารพุ่งไปผิดทาง บัลแกเรีย พยายามฮึดสู้ท้ายครึ่งแรกมีโอกาสถึงสองครั้งติดต่อกันจากจังหวะแรกบอลเปิดริมเส้นทางซ้ายมาให้ โปปอฟ ยืนหันหลังให้ประตูพักด้วยอกก่อนหมุนตัววอลเลย์บอลเหินข้ามคาน ตามมาด้วย โปปอฟ วอลเลย์ในกรอบเขตโทษทางขวาบอลผ่านมือ บุฟฟ่อน ไปแล้วถากเสาสองนิดเดียว จบ 45 นาที อิตาลี นำ 2-1 ครึ่งหลัง กลับมาเริ่มต้นกันใหม่แค่สองนาที อิตาลี กำลังได้ใจเปิดเกมบุกเข้าใส่แบบไม่ทันตั้งตัวหวังพังประตูตอกฝาโลงแค่สองนาทีเกือบได้เฮ โจวินโก้ หลุดเข้าไปยิงด้วยเท้าขวาหน้าปากประตูระยะสิบหลาแต่ มิเฮลอฟ นายทวารซูเปอร์เซฟปัดทิ้ง หลังตั้งรับอยู่พักนึง บัลแกเรีย หันมาเปิดเกมบุกเข้าใส่บ้างนาที 57 โปปอฟ ลงมาล้วงบอลหาจังหวะสับไกยิงเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษบอลแฉลบกองหลังอัซซูรี่ถากเสานิดเดียว หลังจากนั้นเกมตกเป็นของ บัลแกเรีย เป็นฝ่ายบุกกดดันแนวรับอัซซูรี่ที่ถอยมาตั้งรับหน้าปากประตูแบบหลังพิงฝาจนกระทั่งในที่สุดความพยายามสัมฤทธิ์ผลนาที 66 มิคันสกี้ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษทางขวาเกือบสุดเส้นหลังก่อนจ่ายเข้ากลางประตู มิลานอฟ นิ่งมากแม้ต้องเจอ บุฟฟ่อน ที่พุ่งออกมากดดันอยู่ตรงหน้าแต่ยังวางเท้าซ้ายซัดผ่านนายด่านอัซซูรี่เข้าไปอย่างเลือดเย็นสกอร์เสมอ 2-2 พอตีเสมอได้ บัลแกเรีย คึกใหญ่เปิดเกมบุกเข้าใส่อีกระลอกนาที 76 เกือบพลิกแซงจากจังหวะ กาดเซฟ ไหลให้ อิวานอฟ อัดด้วยเท้าขวาระยะ 15 หลาแต่คราวนี้ บุฟฟ่อน นายทวารล้มตัวปัดทิ้งไปได้อย่างฉิวเฉียด เวลาที่เหลือ บัลแกเรีย หันมาเน้นครองบอลพยายามไม่ให้เสียง่ายๆขณะที่ อิตาลี พยายามบุกเข้าใส่แต่เจาะไม่เข้าเลย จบเกมเสมอ 2-2 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม บัลแกเรีย(4-5-1): มิเฮลอฟ-ยอร์ดาน มิเนฟ,เวเซลิน มิเนฟ,อิวานอฟ,มาโนเลฟ-โบดูรอฟ,กาดเซฟ(ซาร์มอฟ น.80),มิลานอฟ,ยาคอฟ,การ์โกรอฟ(มิคันสกี้ น.62)-โปปอฟ(โทเนฟ น.81) อิตาลี(3-5-2): บุฟฟ่อน-บาร์ซายี่,โบนุชชี่,โอบ๊อกนา(เปลูโซ่ น.68)-จาคเครินี่(เดียมานติ น.64),มาร์คิซิโอ,เด รอสซี่,ปิโร่,มัจโจ้-โจวินโก้(เดสโตร น.73),ออสวัลโด้ http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=663538&sid=0c0d9ff061cf93d65d0a51d9da14d012

โอซิลเหมาสองนำอินทรีเฮ 3-0/ฝอยทองหืดเฉือนเม็ดเดียว

เมซุต โอซิลฉายฟอร์มเด่นในครึ่งหลังซัดสองประตูช่วยเยอรมนีต้อนตือหมู่เกาะแฟโรไปแบบไม่ระบมเท้า 3-0 ขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่มซีแบบชิวๆพร้อมฉลองการเล่นนัดที่ 100 ให้ลูคัส โพดอลสกี้ ส่วนผลอีกคู่ของกลุ่มเอฟโปรตุเกสน้ำลายเหนียวเมื่อปล่อยให้ลักเซมเบิร์กทะลวงตาข่ายได้ก่อนยังดีที่มาไล่แซงจนเบียดชนะ 2-1 คริสติอาโน่ โรนัลโด้สลัดความเศร้ายิงได้ด้วย ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2555 เยอรมนี 3 : 0 หมู่เกาะแฟโร ประตู : 1-0 มาริโอ เกิ๊ทเซ่ น.28, 2-0 เมซุต โอซิล น.54, 3-0 เมซุต โอซิล น.72 คลิปไฮไลท์ ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เยอรมัน 3-0 หมู่เกาะแฟโร ครึ่งแรก เปิดฉากมาได้ 8 นาทีโอซิลไหลบอลให้รอยส์หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาของหมู่เกาะแฟโร ทว่ากองหน้าจากดอร์ทมุนด์กระทุ้งไปติดเซฟของนีลเซ่นเลยทำให้เยอรมนีชวดได้ประตูขึ้นตั้งแต่ต้นเกม นาที 19 ยังเป็นโอกาสเข้าทำของทัพ"อินทรีเหล็ก"เมื่อลาห์มพาบอลขึ้นมาทางกราบขวาก่อนเปิดเข้ากลางไปให้โคลเซ่เทคตัวขึ้นโหม่งจากระยะเพียง 10 หลาลอยโด่งข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย อีกสองนาทีถัดมาเกิ๊ทเซ่โชว์สเต็ปเลี้ยงบอลขั้นเมพเลื้อยหลบได้ถึงสามคนไปจนสุดเส้นหลังแล้วเปิดคืนมาให้โอซิลวิ่งเข้ายิงในจังหวะแรกแบบไม่ต้องจับถูกนีลเซ่นนายด่านจากแมนฯซิตี้ปัดทิ้งได้ทัน หลังจากนั้นนีลเซ่่นก็โชว์เซฟงามๆไปอีกสองดอกเริ่มจากจังหวะที่ลาห์มเปิดบอลมาให้รอยส์ตะบันโดนปัดพ้นเสา ส่วนอีกหนฮุมเมิลส์พาบอลลุยขึ้นหน้ามาจ่ายให้โคลเซ่พลิกหนีตัวประกบกดไปถูกทุบทิ้งเช่นกัน อย่างไรก็ตามนาที 28 เยอรมนีก็ได้ประตูที่ต้องการเมื่อเกิ๊ทเซ่เล่นพาบอลหนีผู้เล่นแฟโรถึง 4 รายจากฝั่งซ้ายของเขตโทษไปด้านขวาก่อนยิงหักข้อผ่านมือนีลเซ่นไปที่เสาไกลให้"อินทรีเหล็ก"ออกนำ 1-0 นาที 38 "อินทรีเหล็ก"ขึ้นเกมเร็วมาทางฝั่งซ้ายก่อนที่รอยส์วิ่งสอดทะลุช่องมารับบอลจากเพื่อนจนหงุดไปถึงสุดเส้นหลังแล้วเปิดเลียดเข้ากลางมาให้โคลเซ่วิ่งฉีกมายิงโล่งๆแต่บอลเหินข้ามคาน ก่อนหมดครึ่งแรก 3 นาทีเกิ๊ทเซ่ที่วันนี้เป็นหัวใจในแนวรุกของเจ้าบ้านก็โซโล่หลบแนวรับแฟโรไปสองคนก่อนพยายามกึ่งยิงกึ่งผ่านจากฝั่งซ้ายมาหน้าประตูแต่ไม่มีใครชาร์จทันเลยทำให้สกอร์ยังหยุดอยู่ที่ 1-0 ครึ่งหลัง กลับมาเล่นกันต่อจนถึงนาที 54 เยอรมนีได้โต้กลับโดยเคห์ดิร่าจ่ายให้โอซิลลากกว่าครึ่งสนามไปแทงออกขวาให้มุลเลอร์รับไปแล้วเปิดกลับมาที่เสาแรกให้โอซิลตามมากระโดดแปตุงตาข่ายพาทีมทิ้งห่าง 2-0 เท่านั้นเกือบไม่พอเมื่อนาที 59 โอซิลได้โอกาสจบสกอร์อีกหลังเขาได้บอลที่ระยะ 25 หลาแล้วเห็นมีช่องเลยจัดการตะบันไกลหนีมือนีลเซ่นหลุดเสาขวาออกหลังประตูไปแบบได้ลุ้นเลยทีเดียว นาที 66 โอซิลยังแผลงฤทธิ์ไม่เลิกเมื่อเล่นกระชากจากด้านซ้ายตัดเข้าในก่อนที่แข้งวัย 23 ปีได้จังหวะซัลโวที่บริเวณหัวกระโหลกร้อนถึงนีลเซ่นต้องดีดตัวปัดบอลออกหลังประตูไป ความพยายามของจอมทัพเรอัล มาดริดที่อยากบวกลูกสองให้ตัวเองมาประสบผลในนาที 72 เมื่อรอยส์จ่ายบอลจากเข้ามาในเขตโทษให้โอซิลจับบอลหนึ่งจังหวะก่อนยิงผ่านตัวนีลเซ่นเข้าไปให้ทีมทิ้งห่าง 3-0 หมู่เกาะแฟโรเกือบตีไข่แตกในนาที 83 เมื่อฮอร์สต์ตะบันจากระยะ 35 หลาเรียกได้เลยว่าเต็มตีนเตี่ยไปโดนนอยเออร์เวฟเอาไว้แต่บอลดันมีแบ็คสปินเข้าหาประตูร้อนถึงนายด่านบาเยิร์นต้องหยุดไว้อีกครั้ง ก่อนหมดเวลาสองนาทีชูร์เร่ลุยขึ้นกราบซ้ายแล้วเปิดบอลไปที่เสาไกลโดนแนวรับแฟโรโหม่งเคลียร์สกัดไปหน้าเขตโทษเข้าทางเคห์ดิร่าวิ่งมาตะบันข้านคานไปไกลชนิดต้องส่งเฟอร์ร่ารี่บึ่งไปเก็บ จบเกมเยอรมนีเปิดบ้านต้อนเอาชนะหมู่เกาะแฟโรไปแบบสบายเท้า 3-0 ขึ้นไปนำจ่าฝูงของเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม 3 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์ 8, แปร์ แมร์เตซัคเกอร์ 7.5, มัตส์ ฮุมเมิลส์ 8, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ 7, ฟิลิปป์ ลาห์ม 7.5, ซามี่ เคห์ดิร่า 7.5, เมซุต โอซิล 8.5*, โธมัส มุลเลอร์ 7 (อังเดร ชูร์เร่ น.68, 7), มาริโอ เกิ๊ทเซ่ 8, มาร์โก รอยส์ 8 (ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ น.87, N/A), มิโรสลาฟ โคลเซ่ 7.5 (ลูคัส โพดอลสกี้ น.75, 7) หมู่เกาะแฟโร : กุนนาร์ นีลเซ่น 8.5, โจนาส ทอร์ นาเอส 6, โพล จัสตินุสเซ่น 6, ร็อกวี่ บัลด์วินส์สัน 6.5, อ็อดมาร์ ฟาเอโร 6.5, โฟรดี้ เบนจามินเซ่น 6, ฮัลเลอร์ ฮันส์สัน 7, คริสเตียน โฮล์สต์ 7.5, ดาเนี่ยล อัดเซ่น 5.5 (ซูนี่ โอลเซ่น น.46, 6.5), ซิมุน ซามูเอลเซ่น 7 (ฮาลกริม เอลต์เตอร์ น.65), โจน เอ๊ดมุนด์ส์สัน 7 http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=663541&sid=0c0d9ff061cf93d65d0a51d9da14d012

โอซิลบอกอินทรีทำเต็มที่แล้ว-เกิ๊ทเซ่ชมเกมรับแฟโรเจาะได้ยาก

เมซุต โอซิลผู้ซัดสองประตูช่วยเยอรมนีถล่มหมู่เกาะแฟโร 3-0 เห็นด้วยกับโยอาคิม เลิฟบุนเดสเทรนเนอร์ในประเด็นที่ว่าทีมยังจบสกอร์ไม่เฉียบขาดพอแต่ก็ยืนยันว่าพวกเขาทำกันเต็มที่แล้ว "เรากดดันใส่พวกเขาตั้งแต่ต้นและเราต้องการพังประตูแรกให้ได้ เรามีโอกาสจบสกอร์มากมายในครึ่งเวลาแรก"แข้งเรอัล มาดริดกล่าว "เราทำทุกอย่างแล้ว เราสมควรเป็นฝ่ายชนะและสามารถพอใจกับผลการแข่งขันของเราได้ เราทำสำเร็จในขั้นแรกแล้ว" ขณะที่มาริโอ เกิ๊ทเซ่ที่พังประตูแรกให้กับ"อินทรีเหล็ก"ได้ออกโรงชื่นชมแนวรับของหมู่เกาะแฟโรที่ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับทีมของเขาในการฝ่าด่านเข้าไปยิงประตู "พวกเขายืนกันลึกมากและมันเป็นเรื่องยากที่จะฝ่าด่านพวกเขาเข้าไป เราควรทำได้ดีกว่านี้ใน 1 หรือ 2 สถานการณ์ แต่เราก็ทำได้ดีสำหรับประตูที่ได้มา" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=663557&sid=0c0d9ff061cf93d65d0a51d9da14d012

ทาถูชมเปาะ''หนูทอม''ถึงว่าทำไมป๋ารักป๋าหลง

รอย ฮอดจ์สันผู้จัดการทีมชาติอังกฤษออกโรงชื่นชมทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์มิดฟิลด์ดาวรุ่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่เอาชนะมอลโดว่า 5-0 เคลฟเวอร์ลี่ย์ลงสนามรับใช้ทีมชาติอังกฤษเป็นเพียงนัดที่ 2 เท่านั้นแต่เขากลับทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ไม่แพ้รุ่นพี่ในทีมชาติ ซึ่งฮอดจ์สันก็เข้าใจว่าเพราะเหตุฉะนี้ ที่ทำให้ "หนูทอม" เป็นตัวหลักของแมนฯ ยูไนเต็ดในฤดูกาลนี้ "ผมจะไม่ขอทำการเปรียบเทียบเขากับนักเตะที่ยอดเยี่ยมในอดีต แต่ผมคิดว่าทอมทำหน้าที่ได้ดีมากๆ" "เขาเข้ามาทำหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าวและก็ดูคุ้นเคยกับมันสุดๆ เรื่องนี้มันทำให้ผมเข้าใจอย่างง่ายดายเลยว่าทำไมเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันจึงเลือกเขาลงเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" "มันกลายเป็นหลักฐานชี้ชัดเจนเลยว่าการตัดสินใจใช้งานเขากับทีมสหราชอาณาจักรคือการตัดสินใจที่ดี และมันทำให้ผมค้นพบตัวเขามากขึ้น" "ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอด 90 นาที แต่แน่นอนว่าเขาเองก็ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอให้กับยูไนเต็ด เมื่อคุณได้เห็นเขาเล่นแบบนั้น คุณเข้าใจเลยว่าทำไมเซอร์อเล็กซ์ถึงได้ชอบเขามากนัก" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=663561&sid=0c0d9ff061cf93d65d0a51d9da14d012

ผียิ้ม!วงในเผยโด้จิ๋วไม่มีวันลงเรือหากป๋ายังคุมทีมอยู่

คริสติอาโน่ โรนัลโด้ดาวเตะพันล้านของเรอัล มาดริดจะไม่มีวันย้ายไปเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้สโมสรมหาเศรษฐีของพรีเมียร์ ลีกอย่างแน่นอนหากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันยังคุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่เพราะความเคารพในตัวขรัวเฒ่ารายนี้จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวใกล้ชิดกับนักเตะ โรนัลโด้ไม่มีความสุขในถิ่นซานติอาโก้ เบอร์นาบิวโดยปัจจุบันยังไม่มีใครรู้สาเหตุที่แน่ชัดว่ามาจากอะไร แต่เจ้าตัวได้ยืนยันผ่านทวิตเตอร์ว่าไม่ใช่เรื่องเงินอย่างที่สื่อคาดเดาแน่นอน การแสดงออกดังกล่าวของโรนัลโด้ทำให้เขาตกเป็นข่าวย้ายหนีจากเรอัล มาดริดทันทีโดยมีแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและแมนเชสเตอร์ ซิตี้ให้ความสนใจ ซึ่งแหล่งข่าวใกล้ชิดกับโรนัลโด้ยืนยันว่าปีกหมูสับไม่มีความประสงค์ที่จะย้ายไปเล่นให้กับทีมสีฟ้า ตราบใดที่เซอร์อเล็กซ์ยังคุมทีมสีแดงอยู่ "คริสติอาโน่ยังคงสนิทสนมกับอเล็กซ์ เฟอร์กูสันและแม้กระทั่งตอนนี้พวกเขาก็ยังติดต่อกันอยู่" "คริสติอาโน่จะไม่ยอมเสี่ยงทำร้ายจิตใจของเฟอร์กูสันโดยการย้ายไปเล่นให้กับทีมคู่อริแน่นอน" ก่อนหน้านี้โรนัลโด้เคยได้ออกมายกย่องเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันโดยเปรียบว่าเป็นเหมือนกับบิดาอีกคนหนึ่งของเขา "ในตอนที่ผมย้ายมาอยู่กับยูไนเต็ดผมมีอายุเพียงแค่ 18 ปี" "เซอร์อเล็กซ์เปรียบเสมือนกับพ่อของผม เขาสอนอะไรผมหลายๆอย่าง" "ผมทำงานร่วมกับเขามา 6 ปี เขาเป็นมนุษย์และโค้ชที่ยอดเยี่ยม เซอร์อเล็กซ์และโจเซ่ มูรินโญ่เป็นสองโค้ชที่เก่งที่สุดบนโลกใบนี้" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=662343&sid=be7356526fb08786af23b319e2689ce4

พี่บิ๊กหลบหน่อยจ้า!การ์เซียยก''เรือ''ทีมใหญ่สุดเมืองผู้ดี

ฆาบี้ การ์เซียมิดฟิลด์ป้ายแดงเลือดสแปนิชของ"เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ ซิตี้ออกโรงยกย่องต้นสังกัดใหม่ของเขาว่าเป็นสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในพรีเมียร์ ลีกแล้ว ดาวเตะวัย 25 ปีเพิ่งย้ายจากเบนฟิก้ามาร่วมถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยสนนราคา 15.8 ล้านปอนด์ ทั้งนี้อดีตเด็กฝึกของ"ราชันชุดขาว"เรอัล มาดริดก็ได้กล่าวชื่นชมต้นสังกัดใหม่ว่าเต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์และเป็นหนึ่งในทีมใหญ่ที่สุดในยุโรป "มันไม่มีข้อสงสัยเลย ผมอยู่กับทีมที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษและหนึ่งในทีมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปด้วย"การ์เซียกล่าว "ดังนั้นผมจึงภูมิใจมากและผมก็ตระหนักรู้อีกว่าผมกำลังจะได้ร่วมวงกับทีมที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยนักเตะระดับท็อป" "กลุ่มของแชมเปี้ยนส์ ลีกค่อนข้างหินเลยแต่มันจะสนุกมากแน่นอน" "เกมกับเรอัล มาดริดจะเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางที่ยอดเยี่ยมแต่เรามีทีมและนักเตะที่พร้อมต่อกรกับคู่ต่อสู้ทุกราย" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=662352&sid=be7356526fb08786af23b319e2689ce4

ผีจุก!อินเตอร์ฯยันอยากได้"ดามิเยา"ขนเงินมา 47 ลป.

อินเตอร์นาซิอองนาลสโมสรดังของบราซิลได้ยืนยันว่าหาก"ปีศาจแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องการได้ตัวเลอันโดร ดามิเยาหัวหอกตัวเก่งต้องยอมจ่ายค่าฉีกสัญญาที่ 47 ล้านปอนด์เท่านั้น ดาวเตะวัย 23 ปีกำลังได้รับความสนใจจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์และลิเวอร์พูล ขณะที่ล่าสุดยูไนเต็ดก็โผล่มีชื่อมาร่วมวงสนใจด้วยอีกทีม ตามรายงานข่าวระบุว่า"เร้ด เดวิลส์"เตรียมเดินหน้าทาบทามดาวยิงทีมชาติบราซิลในเดือนมกราคมนี้แต่โจวานนี่ ลุยจิประธานสโมสรอินเตอร์นาซิอองนาลก็ยืนยันว่าพวกเขาจำเป็นต้องจ่ายค่าฉีกสัญญาตามที่ระบุไว้ 47 ล้านปอนด์ "เราไม่ได้กำลังพูดถึงทีมเล็กๆอยู่นะ เรากำลังพูดถึงอินเตอร์นาซิอองนาล"ลุยจิกล่าว "พวกเขาต้องมาคุยกับอินเตอร์นาซิอองนาล ไม่ใช่ไปคุยกับนักเตะ" "หากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาที่นี่ในวันนี้ ผมจะบอกให้พวกเขาจ่ายค่าฉีกสัญญามา พวกเขาต้องรู้ว่าอินเตอร์นาซิอองนาลเป็นสโมสรใหญ่" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=662362&sid=be7356526fb08786af23b319e2689ce4

ซานโต๊สปัดข่าวผียื่น 38 ล.ทาบ''เนย์มาร์''ก่อนตลาดปิด

ซานโต๊สต้นสังกัดของเนย์มาร์สตาร์ทีมชาติบราซิลยืนยันว่า"ปีศาจแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่ได้ยื่นข้อเสนอ38 ล้านปอนด์ขอซื้อนักเตะในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายตามที่ตกเป็นข่าวแต่อย่างใด มีรายงานข่าวระบุว่าเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันนายใหญ่โบราณวัตถุพยายามทุบสถิติของสโมสรคว้าตัวดาวเตะวัย 20 ปีมาร่วมทัพในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดซื้อขาย ขณะเดียวกันแมนเชสเตอร์ ซิตี้,เรอัล มาดริด,บาร์เซโลน่าและเชลซีต่างก็ตกเป็นข่าวให้ความสนใจในตัวสตาร์แซมบ้ารายนี้แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวน่าจะอยู่ในลีกบ้านเกินไปจนกระทั่งหลังศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิลเป็นเจ้าภาพ ยูไนเต็ดพลาดได้ตัวเพื่อนร่วมทีมชาติบราซิลชุดเหรียญเงินโอลิมปิก 2012 ของเนย์มาร์อย่างลูคัส มูร่าที่เลือกย้ายไปอยู่กับ"เปแอสเช"ปารีส แซงต์-แชร์กแมงทีมเงินถุงเงินถังจากแดนน้ำหอมในช่วงต้นซัมเมอร์ อย่างไรก็ตามเฟลิเป้ ฟาโร่ผู้อำนวยการฟุตบอลของซานโต๊สก็ยืนยันว่าข่าวที่ออกมาเรื่องยูไนเต็ดพยายามทาบทามเนย์มาร์ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด "ผมไม่รู้เลยว่ามัน(ข่าว)มาจากไหนแต่มันไม่เป็นความจริงเลย"ฟาโร่กล่าว ขณะที่เนย์มาร์ ซานโต๊สพ่อบังเกิดเกล้าของดาวเตะเนื้อหอมก็ได้พูดเล่นแบบสนุกสนานว่า"เนย์มาร์ถูกขายไปตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วแต่เราก็ยังคงอยู่ที่นี่" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=662370&sid=be7356526fb08786af23b319e2689ce4

ไม่ว่าใครจะมองว่าฉัน...งมงาย!บีร็อดบอก''ค็อป''จงศรัทธาต่อไป

เบรนแดน รอดเจอร์สกุนซือตาหวานของ"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลออกโรงบอกกล่าวให้แฟนบอลยังคงศรัทธาในทีมต่อไปแม้ออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ได้อย่างย่ำแย่ก็ตาม รอดเจอร์สเพิ่งเข้ามารับงานคุมทีมต่อจากเคนนี่ ดัลกลิชกุนซือพาส แอนด์ มูฟในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาท่ามกลางความความหวังของเหล่าสาวก"เดอะ ค็อป" อย่างไรก็ตามเขากลับพาทีมออกสตาร์ท 3 นัดแรกในพรีเมียร์ ลีกได้อย่างน่าผิดหวังหลังเก็บได้เพียงแต้มเดียวรั้งอันดับที่ 18 ของตารางและถือเป็นผลงานที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 50 ปีของสโมสร "ข้อความ(ที่ผมจะบอก)ก็คือจงศรัทธาต่อไป"รอดเจอร์สกล่าว "ในเกมกับเวสต์บรอม ครึ่งแรกเราทำได้ดีมากๆ" "เราแสดงให้เห็นในเกมกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ว่าเราเป็นทีมที่สามารถแข่งขันได้" "จากนั้นก็เกมที่พบกับอาร์เซน่อล เราไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดของเรา" "มันมีหลายเหตุผลสำหรับเรื่องนั้น นักเตะหลายคนต้องลงเล่นเป็นเกมที่สามในรอบสัปดาห์และคุณก็สามารถเห็นได้ว่ามันมีผลกระทบ" "มันยังอยู่ในช่วงต้นมากๆ เราหวังว่าเมื่อเวลาผ่านไป เราจะก้าวหน้าและสามารถพัฒนาขึ้น" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=662412&sid=be7356526fb08786af23b319e2689ce4

ป๋าปลื้ม!ชมเปราะ RVP สุดครบเครื่อง

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันนายใหญ่โบราณวัตถุของ"ปีศาจแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดออกโรงกล่าวชื่นชมโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ดาวยิงคนใหม่ของทีมว่ามีความครบเครื่องสุดๆ ดาวยิงวัย 29 ปีโชว์ฟอร์มเก่งเหมาแฮตทริคพายูไนเต็ดพลิกเอาชนะเซาธ์แธมป์ตันแบบสุดมัน 3-2 เมื่อคืนที่ผ่านมาแม้ว่าเขาจะพลาดลูกโทษไปหนึ่งลูกก็ตาม "ผมประหลาดใจทุกครั้งที่เห็นเขายิงจุดโทษ เขาอัดมันใส่มุมเลย"เฟอร์กูสันกล่าว "อย่างไรก็ตามเขาชดเชยมัน เขามีโอกาสทำประตู 6 ครั้งและเขาก็อันตรายอย่างแท้จริง" "ประตูแรกของเขางดงามเหลือเกิน คอนโทรลบอลและสังหารเข้าไป มันเป็นประตูที่ยอดเยี่ยมมากๆ" "การโหม่งของเขาก็ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกันและเขาก็เป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรา" "ผมเพียงแค่คิดว่าให้เราออกสตาร์ทได้ดีและเสียประตูตอนที่กำลังควบคุมเกม นั่นทำให้คุณผงะเลย' "เราได้ประตูตีเสมอในช่วงเวลาที่เหมาะสมและให้เวลาเราได้จัดระบบใหม่ของเราเองเพื่อทำให้มั่นใจว่าเราจะคุมเกมได้ในครึ่งหลัง" "มันไม่ได้เป็นไปตามนั้นและผมคิดว่าใน 20 นาทีแรกเซาท์แธมป์ตันเล่นดีมากๆ" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=660602&sid=3b6ec182a2df343b68c5a62314a0d34d

มินิเดดไลน์!แมว,หม้อ,หงส์รุมเร้าแย่งโอเว่น

โทรศัพท์ไมเคิ่ล โอเว่นไม่มีฝุ่นจับเหมือนช่วงตลาดเปิดแน่นอนหลังทั้งสโต๊ค ซิตี้,ลิเวอร์พูลและซันเดอร์แลนด์ต่างให้ความสนใจโดยต้องเช็กบิลให้ได้ก่อนช่วงเวลาสี่ทุ่มของวันอังคารบ้านเรา "เบบี้โกล์"ในวัย 32 ปียังไม่มีสังกัดนับตั้งแต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไม่ต่อสัญญาโดย"ช่างปั้นหม้อ"แสดงเจตจำนงแบบชัดเจนว่าอยากได้อดีตดาวยิงเรอัล มาดริดมาเสริมทัพด้วยแต่เป็นการเซ็นสัญญาด้วยเงื่อนไข pay-as-you-play หรือจ่ายเงินเมื่อลงเล่นเท่านั้น "ผมอยากเซ็นสัญญากับไมเคิ่ลนะ"โทนี่ พูลิสกุนซือสโต๊คไม่แอ๊บให้เสียเวลา "ถ้าเราเซ็นได้เราจะเซ็นแน่และเราจะทำในแนวๆเดียวกับที่เซ็นโจนาธาน วู้ดเกท" "ถ้าเขามีชื่อในทีมเขาจะได้รับค่าเหนื่อยและหากเขาไม่มีชื่อก็จะได้เงินบ้างนิดหน่อย" ล่าสุดมาร์ติน โอนีลกุนซือจอมแท็คติกส์ของซันเดอร์แลนด์ต้องการสานต่อเกมรุกหลังเสริมเข้ามามากมายทั้งสตีเฟ่น เฟลทเชอร์,อดัม จอห์นสันและลหลุยส์ ซาฮา อย่างไรก็ตามเคสที่น่าสนใจที่สุดและคิดว่าโอเว่นน่าจะเลือกเป็นอันดับแรกนั่นคือการกลับแอนฟิลด์หลังลี้จรไปนานกว่า 8 ปีนับตั้งแต่ย้ายไปโกอินเตอร์กับ"ราชันชุดขาว" ข่าวกับโอเว่นนี้จะรู้เรื่องภายใน 16.00 น.ของวันอังคารตามเวลาที่อังกฤษหรือ 22.00 น. บ้านเราเนื่องจากทุกสโมสรในพรีเมียร์ลีกต้องลงทะเบียน 25 ผู้เล่นก่อนช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อที่จะสามารถร่วมวงไพบูลย์บู๊ในระหว่างนี้จนถึงเดือนมกราคมนั่นเอง http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=660866&sid=3b6ec182a2df343b68c5a62314a0d34d