ยินดีต้อนรับ
วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสโมสร
1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน
2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา
ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ
3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น
4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน
1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน
2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา
ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ
3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น
4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน
วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
แชมป์แล้วจ้า!ราชันบุกถลุงบิลเบา 3-0 ซิวลาลีกาสมัย 32
"ราชันชุดขาว"เรอัล มาดริดฉีกพ้นร่มเงาความสำเร็จของบาร์เซโลน่าได้เสียทีหลังบุกกระหน่ำแอธเลติก บิลเบาที่เหลือสิบคน 3-0 มีแต้มห่างจาก"ต่างดาว" 7 คะแนนเหลือแข่งอีก 2 นัด เช็คบิลแชมป์ลาลีกาหนแรกในรอบ 4 ปีและนับเป็นสมัยที่ 32 ต้องขอบคุณเทรนเนอร์จอมอหังการที่ชื่อโจเซ่ มูรินโญ่
ลาลีกา
วันพุธที่ 2 พฤษภาคม 2555
แอธเลติก บิลเบา 0 : 3 เรอัล มาดริด
สนาม : ซาน มาเมส
ประตู : 0-1 กอนซาโล่ อิกวาอิน น.17, 0-2 เมซุต โอซิล น.20, 0-3 คริสติอาโน่ โรนัลโด้ น.50
คลิปไฮไลท์ ลาลีกา แอธเลติก บิลเบา 0-3 เรอัล มาดริด
ครึ่งแรก
ไม่ถึงนาทีอิไรซอสโชว์เซฟ
ออกสตาร์ทมาได้นาทีเดียวเรอัล มาดริดหวิดพังประตูออกนำเสียแล้วเมื่ออิกวาอินวิ่งตามบอลทะลุช่องเข้าไปที่ริมกรอบเขตโทษแต่โชคดีสำหรับบิลเบาที่อิไรซอสปรี่ออกจากเส้นมาล้มตัวขวางไว้ได้ทัน
โคเอนเทรากดโดนปัด
อีกสองนาทีถัดมาโรนัลโด้กระชากบอลจากฝั่งซ้ายตัดเข้ามาในก่อนแทงทะลุช่องให้โคเอนเทราหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนกระทุ้งไปถูกอิไรซอสปัดที่เสาแรกเลยได้แค่ลูกเตะมุมเท่านั้น
โรนัลโด้พลาดลูกโทษ
"ราชันชุดขาว"น่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆในนาที 12 จากจังหวะที่มาร์ติเนซไปใช้มือบล็อกลูกโขกของรามอสจนโดนจับแฮนด์บอลก่อนที่โรนัลโด้ก้าวเข้ามาสังหารลูกโทษไปกลางประตูติดเซฟของอิไรซอส
อิกวาอินสังหารคมกริบ
อย่างไรก็ตามพอถึงนาที 17 "ราชันชุดขาว"ก็ขึ้นนำ 1-0 จนได้เมื่อโรนัลโด้โซโล่บอลลุยขึ้นหน้าแล้วแทงออกซ้ายให้โอซิลเบิ้ลคืนมาให้อิกวาอินทางขวาก่อนล็อคหลบตัวประกบจนมีช่องยิงสวนอิไรซอสเข้าประตู
โด้เปิดงาม-โอซิลจบไม่เหลือ
เท่านั้นไม่พอเมื่ออีกสามนาทีถัดมาทีมเยือนได้จังหวะสวนกลับเร็วโดยเป็นโรนัลโด้ที่กระชากบอลขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวาแล้วเปิดบอลเลียดไปถึงเสาไกลให้โอซิลวิ่งเข้าชาร์จไม่เหลือซากให้ทีมทิ้งห่าง 2-0
ทั้งเซฟทั้งคานบิลเบายังไม่ได้ประตู
นาที 37 บิลเบาน่าได้ประตูตีไข่แตกอย่างถึงที่สุดเมื่อเปเรซซัลโวฟรีคิกไปโดนคาซิญาสบินมาปัดไว้ได้ที่เสาแรกก่อนที่บอลลอยมาเข้าทางปืนซาน โฆเซ่วอลเลย์สวนกลับเข้าไปแฉลบแข้งทีมเยือนไปชนคาน
โอซิลสวนอัดชนคาน
แต่นาทีถัดมาเรอัล มาดริดก็ตอบโต้ด้วยลีลาการกระชากบอลจากริมเส้นด้านซ้ายตัดเข้าในมาหน้ากรอบเขตโทษแล้วตะบันเต็มข้อระยะ 25 หลาไปกระแทกคานอย่างจังของโอซิล ทำให้"โลส บลังโกส"ยังนำแค่ 2-0
ครึ่งหลัง
อิกวาอินสังหารติดบล็อกสองหน
กลับมาเล่นครึ่งหลังได้ถึงนาที 49 อิกวาอินใช้ความสามารถเฉาพะตัวพาบอลแหวกแนวรับบิลเบาเข้าไปกดในกรอบเขตโทษติดบล็อกของมาร์ติเนซแล้วพอขึ้นฟาดบอลที่กระดอนออกมาก็ยังไม่ผ่านมาร์ติเนซอีกครั้ง
โด้โขกจมตาข่าย
อย่างไรก็ตามกับจังหวะเล่นลูกเตะมุมในนาทีถัดมา"โลส บลังโกส"ก็ส่งบอลเข้าประตูจนได้เมื่ออลองโซ่เปิดบอลโค้งมาให้โรนัลโด้โถมตัวเข้าโหม่งเต็มกบาลตุงตาข่ายให้ทีมทิ้งห่าง 3-0
กาเญฆ่อนลอบไปยิง
เกมมาครบชั่วโมงยังเป็นเรอัล มาดริดที่ครองเกมบุกเข้าใส่โดยเป็นอลอนโซ่ที่วางบอลยาวจากกลางสนามเข้าไปในกรอบเขตโทษให้กาเญฆ่อนที่วิ่งโฉบเข้าไปดูดบอลลงก่อนตีวงสับไกไปโดนอิไรซอสเซฟไว้ได้ที่เสาแรก
เด มาร์กอสส่องไกลชนคาน
นาที 67 โกเมซผ่านบอลมาให้เด มาร์กอสหน้ากรอบเขตโทษก่อนพลิกหาช่องจนได้ลองส่องไกลเต็มข้อบลพุ่งหนีมือคาซิญาสไปชนคาน ขณะที่อีกสี่นาทีให้หลังมาร์ติเนซเจอใบเหลืองที่สองหลังไปทำแฮนด์บอล
ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้จบเกมเรอัล มาดริดบุกมาถล่มแอธเลติก บิลเบาที่เหลือสิบคน 3-0 คว้าแชมป์ลาลีกาสมัย 32 ไปครองได้สำเร็จหลังทิ้งห่างบาร์เซโลน่า 7 คะแนนขณะที่เหลือเกมให้เล่นอีกเพียงสองนัดเท่านั้น
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แอธเลติก บิลเบา : กอร์ก้า อิไรซอส, บอร์ฆ่า อิกิซ่า, ฆาร์บี้ มาร์ติเนซ , โจน ออร์เตเน็ตเซ่, มิเกล ซาน โฆเซ่ (อันโดนี่ อิราโอล่า น.46), อิญิโก้ เปเรซ, ออสการ์ เด มาร์กอส, อิไบ โกเมซ, มาร์เกล ซูซาเอต้า, กาอิซก้า ตอร์เกโร่ , เฟร์นานโด ญอเรนเต้
สำรองไม่ได้ใช้ : ราอูล, โฮนาส รามัลโญ่, อีกอร์ กาบิลอนโด้, ดาบิด โลเปซ, รูอิซ เด กาลาร์เรต้า, กอยกิลี่ เดล คัมโป้
เทรนเนอร์ : มาร์เซโล่ บิเอลซ่า
เรอัล มาดริด : อิเคร์ คาซิญาส, เซร์คิโอ รามอส , เปเป้, ฟาบิโอ โคเอนเทรา , อัลบาโร่ อาร์เบลัว , ชาบี อลอนโซ่ , ซามี่ เคห์ดิร่า, คริสติอาโน่ โรนัลโด้ , โฆเซ่ มาเรีย กาเญฆ่อน (มาร์เซโล่ น.87), กอนซาโล่ อิกวาอิน (คาริม เบนเซม่า น.77), เมซุต โอซิล (เอสเตบัน กราเนโร่ น.79)
สำรองไม่ได้ใช้ : อันโตนิโอ อาดาน, ราฟาเอล วาราน, ราอูล อัลบิโอล, กาก้า
เทรนเนอร์ : โจเซ่ มูรินโญ่
http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=593463&sid=a1fc1c99510a9a1f6545ce8f40643913
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น