ยินดีต้อนรับ

วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสโมสร

1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน

2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา

ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ

3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น

4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน



วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เกรียนให้ก้องโลก!โอ้เบิ้ลสนั่นเลี่ยนหักปีกอินทรี 2-1

มาริโอ บาโลเตลลี่โชว์ฟอร์มไร้ที่ติออกมาแบบจนแฟนต้องซูฮก จัดการซัดคนเดียว 2 ลูก โดยเฉพาะประตูสุดท้ายที่ยิงสนั่นลั่นสนาม ส่งอิตาลีเอาชนะเยอรมันที่มาตีไข่แตกจาจุดโทษของโอซีลในช่วงทดเจ็บแบบเบ็ดเสร็จทุกกระบวนท่า 2-1 ทะลุเข้าไปรีแมตช์กับสเปนในนัดชิง ยูโร 2012 รอบรองชนะเลิศ วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน 2555 สนาม : เนชั่นแนล สเตเดี๊ยม เยอรมัน 1 : 2 อิตาลี ประตู : 0-1 บาโลเตลลี่ น.20, 2-0 บาโลเตลลี่ น.36, 2-1 โอซีล(จุดโทษ) น.90+2 คลิปไฮไลท์ ยูโร 2012 เยอรมัน 1-2 อิตาลี ทุกสายตาทั่วโลกต่างก็จับจ้องมาที่เกมใหญ่เพื่อค้นหาตัวผู้ที่จะเข้าไปชิงชนะเลิศยูโร 2012 กับสเปนระหว่างเยอรมันและอิตาลีสองทีมยักษ์ซึ่งยากจะคาดเดาได้ว่าสุดท้ายผลลัพธ์จะออกเป็นอย่างไร แน่นอนว่าเยอรมันค่อนข้างจะเป็นต่อจากฟอร์มการเล่นตลอดทัวร์นาเมนต์นี้ของพวกเขาที่คว้าชัยชนะมาได้ตลอดทุกเกมที่ลงเล่น แถมเกมนี้พวกเขายังคึกเต็มที่ที่ได้ชไวน์สไตเกอร์ผ่านความฟิตลงเล่น รวมทั้งคิเอลลินี่ที่ลงคุมแนวรับให้ทีมได้ ขณะที่หัวหอกเป็นโกเมซที่เบียดจอมเก๋าอย่างโคลเซ่ไปนั่งสำรองก่อน บาโลเตลลี่ยังคงลงเล่นในแดนหน้าจับคู่กับคาสซาโน่ให้อิตาลี อันนี้ก็ต้องตามลุ้นกันด้วยว่าน้องโอ้จะสงบเสงี่ยมไม่อาละวาดเหมือนเดิมหรือไม่ จอมทัพอย่างปิร์โล่น่าจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นแฟนบอลหรือผู้เล่นของเยอรมัน เพราะฟอร์มจัด เป็นหัวใจให้ "อัซซูรี่" ตลอดการแข่งขันในครั้งนี้ ครึ่งแรก ทุกอย่างจริงๆ!ปิร์โล่สกัดจากเส้น เริ่มมาได้ 5 นาที ปิร์โล่ก็โชว์ความสำคัญทุกอย่างกับทีมชาติอิตาลีให้ทุกคนได้เห็น จากจังหวะเตะมุมของเยอรมันที่โยนเข้ากลางแล้วบุฟฟ่อนออกไปไม่ถึงบอล ก่อนจะโดนยิงสวนผ่านตัวเขาไปแล้ว แต่ยังมีปิร์โล่ที่ยืนคุมเสาสกัดบอลเอาไว้ได้ก่อนจะเข้าประตู หวุดหวิดมาก ดีไม่ตรงกรอบ!พี่บุฟปัดโดนเพื่อน นาทีที่ 12 บุฟฟ่อนคงใจหายว้าบเลยกับจังหวะนี้ที่เคดิร่าพาบอลขึ้นไปจนถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนแทงออกทางขวาให้กับเพื่อนที่วิ่งเติมขึ้นมาเปิดด่วนครอสเข้ากลาง บุฟฟ่อนล้มตัวพยายามจะปัดออกไม่รับติดมือ บอลเด้งไปโดนขาของโบนุชชี่ที่วิ่งตามจะมาช่วยดัก ยังดีที่ทิศทางมันพุ่งหลุดออกหลังไป ไม่งั้นมีโศกเหมือนกัน จังหวะนี้สวย!มอนตี้ได้ลงให้เลี่ยน นาทีที่ 17 ได้โอกาสจบสกอร์บ้างแล้วสำหรับฝั่งของอิตาลี หลังโดนเยอรมันกดดันอยู่พักใหญ่จนบุฟฟ่อนต้องเซฟลูกยิงเน้นๆของโครส แต่ก็มาจ่ายบอลต่อเกมกันได้ดี ก่อนคาสซาโน่แตะคืนหลังให้มอนโตลิโวดึงบอลหลบกองหลัง แล้วรีบซัดด้วยขวาทันที แต่บอลไม่หนีมือนอยเออร์ ล้มตัวเซฟได้ หน้าสิวพลิกเทพ!เกรียนโอ้โหม่งเต็มเหน่งจ้า นาทีที่ 20 แม้ว่าเกมจะเป็นรอง แต่ด้วยความยอดเยี่ยมในการเข้าทำและต้องชมเทคนิคของคาสซาโน่ที่ช่วยให้อิตาลีได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเลย ในจังหวะที่เขารับบอลมาจากคิเอลลินี่ แม้ว่าจะโดนกองหลังเยอรมันล้มหน้าล้อมหลัง แต่ก็พลิกตัวแตะบอลสองจังหวะหมุนหนีการประกบไปเปิดบอลเข้ากลางได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่บาโลเตลลี่จะรู้งานขยับหนีบล็อกแล้วเทคตัวโหม่งเต็มเหน่งที่เสาแรก บอลพุ่งผ่านมือของนอยเออร์ที่ได้แต่ทำท่าเงิบกระแทกตาข่ายเข้าประตูไป อิตาลีนำ 1-0 มันส์แน่แล้วแบบนี้ อินทรีเหล็กพยายามเอาคืนเต็มที่ ผ่านครึ่งชั่วโมงแรกของเกมไป เยอรมันพยายามอย่างแรงที่จะเซ็ตบอลเพื่อทวงประตูตีเสมอกลับคืนมาจากอิตาลีให้ได้ แต่ดูแล้วพวกเขายังต้องพยายามให้มากกว่านี้ เพราะยังหาช่องเจาะไม่ได้ แถมโอกาสยิงส่วนมากก็มาจากการซัดนอกกรอบหรือการโดนบีบให้ยิงในจังหวะยากๆเท่านั้น อ่านขาด!มอนตี้ล็อคติดบล็อกบาดสตูเบอร์ นาทีที่ 34 เรียกได้เลยว่าจังหวะนี้ต้องชมบาดสตูเบอร์ที่อ่านจังหวะเยี่ยม เมื่อคาสซาโน่โชว์ทริคไหลบอลให้มอนโตลิโวหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ มีโอกาสซัดด้วยซ้ายเน้นๆแล้ว แต่เจ้าตัวเลือกล็อคบอลให้เข้าขวา บาดสตูเบอร์ไม่หลงเลยสกัดได้แบบเน้นๆ ระเบิดความเทพ!เกรียนโอ้ยิงสนั่นลั่นยูโร อีก 2 นาทีต่อมา นี่มันแจ้งเกิดชัดเจนเลยสำหรับบาโลเตลลี่ เมื่อเขามาทำประตูที่สองของตัวเองได้ ในจังหวะมอนโตลิโว่โชว์สายตาเฉียบคมเปิดบอลยาวจากกลางข้ามกองหลังที เป็นทีเด็ดที่ใช้มาตลอด ทำให้บาโลเตลลี่ที่เช็คไลน์ได้ดีรับบอลหลุดเข้าไปถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะซัดด้วยเท้าขวาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม บอลพุ่งโคตรแรงเข้าเสียบสามเหลี่ยมหายวั๊บ ชนิดที่นอยเออร์ได้แต่ทำหน้าหวอสุดปัญหาจะรับ อิตาลีทิ้ง 2-0 จังหวะนี้บาโลเตลลี่ได้รับใบเหลืองไป เพราะเขาฉลองประตูด้วยการถอดเสื้อแล้วเบ่งกล้ามโชว์นิ่งกิ้ง จบ 45 นาทีแรก ความเด็ดขาดและเหนียวแน่นของอิตาลีทำให้พวกเขาทำเซอร์ไพรส์แฟนบอลแบบเล็กๆด้วยการนำห่างเยอรมันไปถึง 2-0 ต้องดูว่าทัพ "อินทรีเหล็ก" จะโชว์พลังใจให้ได้เห็นแค่ไหนในอีก 45 นาทีที่เหลือ ครึ่งหลัง ไม่ปรับไม่ได้เลยสำหรับเยอรมัน เมื่อพวกเขาจัดการส่งตัวโคลเซ่และรอยส์ลงไปเล่นแทนโกเมซกับโพโดลสกี้ที่ครึ่งแรกโชว์ฟอร์มกันไม่ออกเท่าไหร่ ต้องดูว่าเกมจะกระเตื้องรวดเร็วมากขึ้นไหม ได้ลุ้นเลย!รอยส์ลงปุ๊บสบช่องปั๊บ แค่ 3 นาทีหลังลงมาเหยียบพื้นหญ้าในสนาม รอยส์ก็โชว์สเต็ปการพาบอลหนีกองหลังอิตาลีในกรอบเขตโทษ ก่อนจะลองซัดด้วยซ้าย แต่เสียดายที่บอลมันแป้กเท้า พุ่งแบบปลิ้นๆเข้าซองของบุฟฟ่อนไป เสียดายแทน!ลาห์มยิงช้อนใต้บอลเกิน นาทีที่ 50 ปกติน่าจะฉมังกว่านี้สำหรับลาห์มที่อุตส่าห์ต่อบอลกับเพื่อนได้ทะลุปรุโปร่งผ่านกองหลังของอิตาลีได้แล้ว แต่จังหวะยิงของเขากลับไปช้อนใต้ลูกเกิน จนบอลพุ่งเหินข้ามคานไปไกล ทำเอาเสียดายกันหมดทั้งเพื่อน ทั้งแฟนบอลและกุนซืออย่างเลิฟ ยอดทั้งคู่!รอยส์ปั่นเฉียบ-พี่บุฟปัดแจ่ม นาทีที่ 61 บุฟฟ่อนโชว์ซูเปอร์เซฟชัดเจนเสียจริง กับจังหวะฟรีคิกในระยะน่าลุ้นของเยอรมันที่ยืนออกันเพียบ ก่อนเป็นรอยส์วิ่งเข้าไปปั่นบอลโค้งข้ามกำแพง แถมเหมือนจะพุ่งเสียบเข้าใต้คานอยู่แล้วด้วย แต่เป็นบุฟฟ่อนที่เหินไปปัดทิ้งออกหลังได้ทันจนเพื่อนๆต้องเข้ามาชมเลย มุมกล้องหลอกตา!มาคิซิโอ้ยิงเฉี่ยวเสา ไอ้เราก็นึกว่าหายเข้าไปแล้วในจังหวะนี้ของอิตาลีที่ต่อบอลกันได้สวย เดียมานติไหลแบบเน้นๆให้กับมาคิซิโอ้สอดเข้าไปยิงก่อนที่กองหลังจะสกัดได้ทัน แม้บอลจะผ่านมือนอยเออร์ไปได้ แต่หลุดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น อดลุ้นแฮทริก!เกรียนโอ้เจ็บต่อไม่ไหว นาทีที่ 70 ถึงจะอดทำแฮทริกแต่ก็ถือว่าฟอร์มของเขาสมบูรณ์แบบจริงๆในเกมนี้ สำหรับบาโลเตลลี่ที่มีปัญหาบาดเจ็บซึ่งตอนแรกดูเหมือนจะตะคริวขึ้น แต่ก็ไม่สามารถเล่นต่อได้ ทำให้เขาถูกเปลี่ยนตัวออกไปเพื่อเซฟไว้่ ก่อนที่จะส่งดินาตาเล่ลงไปเล่นแทน หมดหน้าตัก!อินทรีจัดมุลเลอร์ลง ถือว่าเสี่ยงแล้วสำหรับเยอรมัน เมื่อพวกเขาตัดสินใจถอดเอากองหลังอย่างบังเต็งออก ก่อนที่จะส่งมุลเลอร์ลงไปเติมในแนวรุกแทน เพราะถ้ายังไม่รีบใส่เม็ดแรกให้ได้ไวๆ คงต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านเท่านั้น ทำไมไม่จ่าย!มาคิซิโอ้จบเองเฉย นาทีที่ 75 จังหวะนี้ยังไงก็น่าจะจ่ายให้ดิ นาตาเล่เท่านั้น เพราะมาคิซิโอ้อุตส่าห์ล็อคบอลหนีกองหลังเยอรมัน ก่อนจะมีพื้นที่ว่างโล่ง ซึ่งดิ นาตาเล่ยืนจังก้ารออยู่หน้าประตู พร้อมยิงให้ตาข่ายกระจุยทุกเมื่อ แต่เขาดันเลือกล็อคกลับเข้าขวาอีกที แล้วยิงเอง บอลเลยพุ่งติดไซด์โป้งหลุดเสาออกไป ดิ นาตาเล่ยิงออกได้ไง นาทีที่ 82 นึกว่าจะปิดกล่องบอกลากันไปแล้ว สำหรับอิตาลี เพราะดิ นาตาเล่อุตส่าห์ได้โอกาสวิ่งหลุดเดี่ยวเข้าไปถึงหน้ากรอบเขตโทษของเยอรมัน มีทั้งเวลาและพื้นที่ทุกอย่างพร้อม แต่กลับหวดติดหน้าต่างด้านข้างซะงั้นนี่ อินทรีเหล็กได้จุดโทษตีไข่แตก ช่วงทดเจ็บเยอรมันมาได้ประตูตีไข่แตกช่วยให้ลุ้นขึ้นมาได้อีกเฮือกในจังหวะที่บอลไปโดนแขนผู้เล่นอิตาลีในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้ทันที ก่อนที่โอซีลจะรับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่มีพลาด แต่เวลาเหลือน้อยเหลือเกิน สุดท้ายจบเกม เป็นอิตาลีที่ตั้งรับช่วงท้ายเกมยันเอาไว้ได้ ผ่านเข้าไปเล่นนัดชิงชนะเลิศกับสเปนคู่แข่งในเกมนัดแรกของพวกเขาในยูโร 2012 นี้ด้วยการเอาชนะเยอรมันไป 2-1 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เยอรมัน : มานูเอล นอยเออร์, แมทส์ ฮุมเมลส์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, ฟิลลิปป์ ลาห์ม, เจอโรม บัวเต็ง(มุลเลอร์ น.71), ซามี เคดิร่า, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ลูคัส โพโดลสกี้(รอยส์ น.45), โทนี่ โครส, เมซุต โอซีล, มาริโอ โกเมซ(โคลเซ่ น.45) ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : ทิม วีเซ่, รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์, มาร์เซล ชเมลเซอร์, เบเนดิคต์ โฮวเวเดส, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, อิลเคย์ กุนโดแกน, ลาร์ส เบนเดอร์, มาริโอ เกิทเซ่, อังเดร ชูร์เล่ อิตาลี :จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน, จอร์จิโอ้ คิเอลลินี่, เฟเดริโก้ บาลซาเร็ตติ, อังเดรีย บาร์ซาญี่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, คลาดิโอ มาร์คิซิโอ้, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, ริคาร์โด้ มอนโตลิโว(ม็อตต้า น.64), อังเดรีย ปิร์โล่, มาริโอ บาโลเตลลี่(ดิ นาตาเล่ น.70), อันโตนิโอ คาสซาโน่(เดียมานติ น.58) ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : ซาลวาโตเร่ ซิริกู, มอร์แกน เดอ ซานค์ติส, อังเกโล่ อ๊อกบอนน่า, อิ๊กนาซิโอ้ อบาเต้, เซบาสเตียน โจวินโก้, อันโตนิโอ โนเชริโน่, เอ็มมานูเอเล่ จิอัคเชรินี่, ฟาบิโอ บอรินี่
http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=622706&sid=e0f85fb4ec4d976ca2c98dcac4304fbf

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น