ยินดีต้อนรับ

วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสโมสร

1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน

2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา

ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ

3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น

4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน



วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ถึงฏีกา!เลี่ยนชนเยอรมันล้มดวลเป้าสิงโต 4-2

อิตาลีที่พับสนามบุกตลอด 120 นาทีเสมอ 0-0 พลิกสถานการณ์เกือบลงโลงในการดวลเป้ากลับมาเอาชนะอังกฤษระทึกขวัญ 4-2 หลุดตัดเชือกปะทะเยอรมันสมใจอยาก ฟุตบอลยูโร 2012 รอบก่อนรองชนะเลิศ สนาม : โอลิมปิสกี้่ วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน 2555 อังกฤษ 0:0 อิตาลี (จบ 120 นาทีเสมอกัน 0-0 อิตาลีเอาชนะด้วยการดวลจุดโทษ 4-2) ประตู : - คลิปไฮไลท์ ยูโร 2012 อังกฤษ 0-0 อิตาลี เกมนี้ทางอังกฤษไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงนักเตะ 11 ตัวจริงเลยซักนิดเดียว ส่วนทางอิตาลีต้องปรับแนวรับหน่อยให้โบนุชชี่ลงเป็นตัวจริงแทนคิเอลลินี่ที่เจ็บ ส่วนกองกลางก็ให้โอกาสมอนโตลิโว่ลงแทนมอตต้าและกองหน้าก็เป็นบาโลเตลลี่แทนดิ นาตาเล่ ทั้งสองทีมเคยเจอกันเพียงแค่ 2 ครั้งในทัวร์นาเมนท์ยูโรหรือฟุตบอลโลกเท่านั้นซึ่งทั้งสองครั้ง"อัซซูรี่"เป็นฝ่ายกำชัยได้หมดโดยพวกเขาชนะ 1-0 ในศึกยูโรปี 1980 และเอาชนะได้อีก 2-1 ในนัดชิงอันดับ 3 ฟุตบอลโลกปี 1990 ครึ่งแรก ไม่ง่วงแน่!เปิดมาเด รอสซี่ยิงชนเสาก่อนเลย งานนี้อาจจะไม่ได้ผลอยหลับกันง่ายๆหลังเปิดฉากมา 3 นาที"อัซซูรี่"ก็เกือบได้ประตูออกนำไวเสียแล้วจากจังหวะบอลบุกขึ้นทางขวาก่อนคาสซาโน่จะเปิดแฉลบบอลย้อนออกไปหน้าเขตโทษถึงเด รอสซี่วิ่งเข้ามายิงแบบไม่ต้องจับบอลติดไซร้ก้อยโค้งหนีฮาร์ทไปแล้วแต่ชนเสาเต็มๆ สิงโตขอบ้าง!จีเจเติมมายิงติดเซฟ ถัดมาอีกไม่กี่นาที"สิงโตคำราม"ก็เกือบจะได้ประตูออกนำเช่นเดียวกันเป็นจอห์นสันที่ทำทางขึ้นมาเองจ่ายบอลเข้าเขตโทษให้กับยังเบิ้ลไวออกมาทางริมเส้นให้กับมิลเนอร์เปิดกลับเข้าไปข้างใน บอลติดแฉลบนิดหน่อยแต่ก็ยังไปเข้าทางจอห์นสันได้จับบอลแล้วยิงจ่อๆไม่ถึง 12 หลาแต่บุฟฟ่อนยังไวยื่นมือปัดทันก่อนจะตามไปรับเข้าซอง เกมแลกสนุก!ปาร์คเกอร์ยิงไกลไม่ตรงกรอบ เกมเปิดกันพอสมควรโดยช่วงนี้เป็นบอลของอังกฤษแล้วก็มีโอกาสได้ลองส่องอีกแล้วจากจังหวะบอลเปิดยาวเข้าไปในเขตโทษเหมือนไม่มีอะไรแต่บุฟฟ่อนเลือกทุบออกไปมาเข้าทางปาร์คเกอร์หน้าเขตโทษยิงสวนเลยแต่ก็ไม่ตรงกรอบหลุดออกหลัง เกือบอีกแล้ว!รูนพุ่งโหม่งข้ามคาน นาที 14 อิตาลีต้องรีบแก้ด่วนหลังเจออังกฤษบุกมาอีกได้โอกาสจบอีกครั้งจากจอห์นสันคนเดิมที่เลือกเปิดจากแนวลึกทางขวาเข้าไปในเขตโทษเลยมีรูนี่ย์วิ่งโฉบมาพุ่งโหม่งแต่ก็ต้องชมอบาเต้ที่ตามมากดดันทำให้กองหน้าแมนฯ ยูไนเต็ดโหม่งข้ามคานออกไป เลี่ยนหวิดนำ!โอ้หลุดไปชิพแต่เจทีตามบล็อก หลังเกมกลับไปได้ผลัดกันครองบอลเท่าๆกันอิตาลีก็เริ่มตั้งเกมได้บ้างแล้วก็เกือบได้ออกนำอีกแล้วจากการวางบอลยาวของปิร์โล่ที่ร้ายกาจเหมือนเดิมโยนตั้งแต่กลางสนามข้ามแนวรับให้บาโลเตลลี่หลุดไลน์ดักล้ำหน้าไปจับบอลลงก่อนจะพยายามชิพให้ข้ามหัวฮาร์ทแต่เทอร์รี่ยังเยี่ยมตามมาบล็อกได้ทัน โอ้มาอีก!หลุดตัวประกบได้ยิงแต่ตรงตัวฮาร์ท ผ่านครึ่งชั่วโมงมาโอกาสยังมีเรื่อยๆคราวนี้เป็น"อัซซูรี่ที่ได้จังหวะส่องเน้นๆอีกแล้วจากโบนุชชี่ที่จ่ายขึ้นมาตรงกลางให้ปิร์โล่คนเดิมเล่นบอลจังหวะเดียวเปิดข้ามแนวรับไปให้กับบาโลเตลลี่อีกแล้วแต่บอลชิดตัวไปทำให้ต้องโดดยิงเจอฮาร์ทยืนดักตำแหน่งไว้แล้วรับเข้าซองไม่มีปัญหา ขอบ้างเหอะ!โก๋แดนยิงไม่จับแต่ไม่แม่น ด้านอังกฤษเองโต้กลับมาทีก็ได้เสียวอยู่เหมือนกันเป็นจังหวะที่เวลเบ็คฝากบอลไปหน้าเขตโทษให้กับรูนี่ย์ก่อนจะตอกส้นกลับมาที่เวลเบ็ควิ่งมารับตรงหัวกะโหลกหน้าเขตโทษก่อนยิงเลยแต่ไม่เน้นเท่าไหร่บอลก็เลยลอยนข้ามคาน หน้าสิวได้ส่องไกลบ้างแต่ยังโดนเซฟ เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรกนาที 37 อิตาลีครองบอลได้มากกว่าแล้วและก็ได้โอกาสลองส่องอีกครั้งคราวนี้เป็นคิวของคาสซาโน่บ้างที่ได้รับบอลมาจากบาโลเตลลี่ก่นอจะเลือกลากตัดเข้าในจากซ้ายก่อนจะสับไกทันทีแต่ฮาร์ทยังเซฟไว้ได้ ยังเฉียดไปมา!โอ้เข้าชาร์จแต่โดนสกัดข้ามคาน โอกาสของทีมแดนรองเท้าบู้ทมาอีกแล้วจากการออกบอลของปิร์โล่คนเดิมที่ได้เปิดเข้าไปข้างในทางเสาสองให้กับคาสซาโน่ได้โขกชงมาหน้าประตูก่อนเป็นบาโลเตลลี่วิ่งเข้ามาได้ชาร์จแต่ก็มีเทอร์รี่กับเลสคอตต์มาพัวพันบอลเลยโดนสกัดข้ามคานออกไป ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0 ครึ่งหลัง สิงโตเสียววาบ!เด รอสซี่ยิงอีกหลุดเสานิดเดียว กลับมาเริ่มครึ่งหลังรูปเกมแทบไม่เปลี่ยนไปจากครึ่งแรกเลยและเป็นอิตาลีเช่นเคยที่มีโอกาสได้ลุ้นอีกจากเตะมุมเข้ามาโดยปิร์โล่ บอลยังโดนสกัดออกไปแต่ก็มีตัวโหม่งซ้ำเข้าไปข้างในเขตโทษ คราวนี้บอลหลุดมาให้กับเด รอสซี่ได้ยิงจ่อๆ 6 หลาได้แต่หลุดเสาไม่น่าเชื่อ อังกฤษเสริมใยเหล็ก!เลี่ยนส่อง 3 ทียังไม่เข้า นาที 52 โอกาสสามครั้งของเหน่งๆโดยอิตาลีแต่ก็ยังไม่ได้ซะทีเริ่มจากการยิงไกลของเด รอสซี่กดเต็มข้อ ฮาร์ทเซฟไว้ได้แต่บอลยังมาเข้าทางบาโลเตลลี่ได้ซ้ำติดเซฟฮาร์ทเหมือนเดิมคราวนี้มาเข้าทางมอนโตลิโว่ตรงกลางประตูมีโอกาสยิงเน้นๆอีกทีแล้วแต่กดไม่ลงบอลลอยออกหลัง โชว์นิด!โอ้ตีลังกายิงข้ามคาน ทางอังกฤษเริ่มจะไม่ได้ขึ้นเกมแล้วเจอ"อัซซูรี่"บุกมาทีได้ลุ้นเรื่อยเลยคราวนี้เป็นการทำเกมทางฝั่งขวามอนโตลิโว่ออกไปให้กับอบาเต้เปิดเข้าไป บอลมีแฉลบนิดนึงลอยโด่งแต่บาโลเตลลี่ยังบังไว้ให้บอลตกพื้นทีก่อนจะกระโดดตีลังกายิงแต่บอลข้ามคานนิดเดียว ทีของกูบ้าง!ยังยิงเก็บตกแฉลบหลุดเสา นาที 65 "สิงโตคำราม"ได้มามีโอกาสกับเค้าบ้างหลังเจอบดมานาน เป็นจังหวะบอลเปิดเข้าไปข้างในเขตโทษของวัลคอตต์หวังจะให้คาร์โรลล์เล่นแต่บอลโดนสกัดมาเข้าทางยังได้เก็บตกยิงแต่บอลไปแฉลบหลุดเสาแรกออกไปนิดเดียวเท่านั้น อัซซูรี่ระดมยิงไกลแต่สิงโตยังแน่น เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายแล้วแต่รูปเกมยังไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมากนักอิตาลีระดมยิงไกลบ่อยขึ้นแต่แนวรับอังกฤษยังดีเข้ามาบีบบล็อกกันไว้ได้แต่พอจะเล่นลูกโต้กลับ"สิงโตคำราม"ก็ต่อบอลกันขาดๆเกินๆไม่ได้บุกซักที สิงโตต้องลองลุ้นจากลูกตั้งเตะ อังกฤษหาโอกาสเหน่งๆไม่ค่อยได้เลยต้องมาลุ้นจากลูกตั้งเตะบ้างเป็นเจอร์ราร์ดที่รับหน้าที่เปิดเข้าไปเองหวังจะให้ถึงหัวรูนี่ย์ได้โขกแต่บอลมาสูงไปนิดทำให้โหม่งไม่ค่อยจะโดนก่อนจะมาเข้ามือบุฟฟ่อน เดียมานติส่องไกลฮาร์ทยังรับได้ "อัซซูรี่"ได้ครองบอลต่อเนื่องเริ่มกดดันมากขึ้นเรื่อยๆแล้วมีโอกาสจบอีกครั้งนึงเป็นปิร์โล่ที่จ่ายให้กับโบนุชชี่ดันขึ้นมาหน่อยก่อนฝากไปให้เดียมานติจับบอลเข้าเท้าซ้ายแล้วส่องไกล 28 หลาแต่ฮาร์ทยังล้มตัวรับไว้ได้ เกือบไป!โนเชริโน่สอดมายิงแต่จีเจยังตามบล็อก ช่วง 2 นาทีสุดท้ายของเกมเกือบจะมีประตูตัดสินแล้วจากอิตาลีเป็นการเปิดของมาคิซิโอ้เข้าไปในเขตโทษให้กับโนเชริโน่โฉบมาเอาบอลก่อนจะยิงเลยแต่ต้องชมจอห์นสันที่ตามมาบล็อกได้อย่างทันท่วงที อังกฤษขอลุ้นจากลูกตั้งเตะ ทดเจ็บ"สิงโตคำราม"เกือบได้ประตูชัยตัดสินเช่นเดียวกันเป็นจังหวะที่ไปเอาบอลกลับคืนมาได้ก่อนฝากที่ยังทางซ้ายแล้วออกต่อให้โคลที่สอดขึ้นมาเปิดเข้าไปเสาสองให้คาร์โรลล์โขกชงมาหน้าประตูและมีรูนี่ย์ตีลังกายิงแต่ก็ข้ามออกหลังไปไกล ทำให้จบเกม 90 นาทีเสมอ 0-0 ไปลุ้นกันต่อ ต่อเวลาครึ่งแรก สิงโตหวิดทำได้!รูนตีลังกายิงออกหลัง อิตาลีใจหายใจคว่ำกันเลยหลังมาเล่นช่วงต่อเวลาเป็นอังกฤษที่ได้เสียวมากกว่าจากลูกตั้งเตะโดยเจอร์ราร์ดอีกครั้งเปิดเข้าไปลุ้นข้างในบอลเลยมาหมดผ่านเลสคอตต์ไปแต่ยังไม่ไปไหน เลสคอตต์หันมาเจอแล้วแต่แนวรับอิตาลีเคลียร์ได้ทันพร้อมโดนจับล้ำหน้าไปก่อนด้วย โอ้ส่องอีกยังไม่ผ่านฮาร์ท กลับมาเป็นโอกาสของ"อัซซูรี่"กันบ้างจากปิร์โล่ที่ออกบอลจากกลางสนามแทงขึ้นหน้ามาให้กับบาโลเตลลี่เก็บบอลหน้าเขตโทษก่อนจะดึงจังหวะแล้วแต่งเข้าซ้ายแล้วกดแต่ก็ยังไม่ผ่านมือของฮาร์ท ดวงเกือบมา!เดียมานติเปิดบอลชนเสา นาที 102 อิตาลีได้ดวงช่วยแล้วแต่ยังช่วยไม่สุดหลังเกือบได้ประตูออกนำจากเดียมานติที่ได้บอลทางขวาก่อนจะเปิดเข้าไปข้างใน บอลเหมือนจะไม่มีอะไรแต่พอตกพื้นแล้วกระเด้งไปชนเสาเต็มๆก่อนจะหลุดออกหลัง ต่อเวลาครึ่งหลัง อัซซูรี่ครองบอลกันต่อไป เข้าสู่ครึ่งหลังของการต่อเวลาทางอิตาลียังได้ครองบอลเยอะกว่าแบบชัดเจนแต่โอกาสทำประตูจะๆก็ยังหาไม่ค่อยเจอแล้วได้แต่ลองส่องไกลไม่ก็เปิดเข้าไปลุ้น ส่วนทางอังกฤษยังต้องตั้งรับต่อไป หวิดไปมา!เดียมานติยิงหลุดเสาแรก นาที 113 อิตาลีได้จบอีกครั้งเป็นปิร์โล่ถ่ายบอลไปทางซ้ายให้กับโนเชริโน่ออกไปที่ริมเส้นให้บัลซาเรตติที่เติมขึ้นมาก่อนจะเปิดเข้าไปข้างในให้เดียมานติยิงหลุดเสาแรก เลี่ยนเฮเก้อ!โนเชริโน่โหม่งตุงแต่ล้ำหน้า "อัซซูรี่"เฮกันเก้อซะแล้วหลังส่งบอลไปนอนก้นตาข่ายในจังหวะที่บาโลเตลลี่จ่ายออกไปทางขวาให้กับเดียมานติในเขตโทษล็อกๆหลอกๆโคลไปได้ก่อนจะเปิดไปเสาไกลให้โนเชริโน่ขยับมาโหม่งเข้าประตูแต่ก็โดนจับล้ำหน้าไปก้าวนึง ดวลจุดโทษตัดสิน อิตาลี : บาโลเตลลี่ เข้า อังกฤษ : เจอร์ราร์ด เข้า อิตาลี : มอนโตลิโว่ ไม่เข้า อังกฤษ : รูนี่ย์ เข้า อิตาลี : ปิร์โล่ เข้า อังกฤษ : ยัง ไม่เข้า อังกฤษ : โนเชริโน่ เข้า อิตาลี : โคล ไม่เข้า อิตาลี : เดียมานติ เข้า อังกฤษ : ไม่ต้องยิง จบเกมอันยาวนานในที่สุดอิตาลีก็ผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จด้วยการเอาชนะจากการดวลจุดโทษกับอังกฤษไป 4-2 หลังเสมอกันมา 0-0 ใน 120 นาทีทำให้จะเข้าไปชนกับเยอรมนีในวันพฤหสบดีนี้ รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม อังกฤษ : โจ ฮาร์ท 7, เกล็น จอห์นสัน 7, แอชลี่ย์ โคล 6, จอห์น เทอร์ 7รี่, โจลีออน เลสคอตต์ 7, สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 6.5, แอชลี่ย์ ยัง 6, เจมส์ มิลเลอร์ 7 (วัลคอตต์ น.61, 6.5), สกอตต์ ปาร์คเกอร์ 6.5 (เฮนเดอร์สัน น.94, N/A), เวย์น รูนี่ย์ 6.5, แดนนี่ เวลเบ็ค 6 (คาร์โรลล์ น.61, 7) สำรองไม่ได้ลงสนาม : โรเบิร์ต กรีน, แจ๊ค บัตแลนด์, มาร์ติน เคลลี่, เลห์ตัน เบนส์, ฟิล โจนส์, ฟิล จาเกียลก้า, สจวร์ต ดาวนิ่ง, อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน, เจอร์เมน เดโฟ อิตาลี : จานลุยจิ บุฟฟ่อน 7, เฟเดริโก้ บัลซาเรตติ 7, อิกนาซิโอ้ อบาเต้ 7 (มาจโจ้ น.90, 6.5), อันเดรีย บาร์ซาญี่ 7, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ 7, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ้ 7, ดานิเอเล่ เด รอสซี่ 7 (โนเชริโน่ น.80, 7), ริคาร์โด้ มอนโตลิโว่ 6.5, อันเดรีย ปิร์โล่ 7.5*, มาริโอ บาโลเตลลี่ 7, อันโคนิโอ คาสซาโน่ 6.5 (เดียมานติ น.78, 7.5) สำรองไม่ได้ลงสนาม : มอร์แกน เดอ ซานติส, ซัลวาตอเร่ ซิริกู, จอร์จิโอ้ คิเอลลินี่, อันเจโล่ อ๊อกบอนน่า, ธิอาโก้ มอตต้า, เซบาสเตียน โจวินโก้, อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่, เอ็มมานูเอล ชัคเครินี่, ฟาบิโอ บอรินี่ http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=620839&sid=aed6df4831fa2fe37322535d2901890b

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น