ยินดีต้อนรับ
วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสโมสร
1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน
2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา
ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ
3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น
4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน
1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน
2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา
ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ
3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น
4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน
วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555
เกือบตาย!ฝอยทองนำ 2-0 โดนตีเจ๊าก่อนยิงชัยน.87 เสียวซี๊ด
โปรตุเกสเกือบแพ้ภัยตัวเองเสียแล้ว เมื่อนำห่างไปก่อนถึง 2-0 แถมโรนัลโด้ยังมีโอกาสหลุดเดี่ยว 2 ครั้งแต่พลาดไปเอง ก่อนปล่อยให้เดนมาร์กไล่ตีเสมอสำเร็จช่วงท้ายเกม ยังดีมาได้วาเรล่าที่สวมบทซูเปอร์ซัพทำประตูชัยช่วยให้ทีมเอาชนะไป 3-2 เก็บ 3 คะแนนต่อลมหายใจไปได้แบบเสียวมว๊าก
ยูโร 2012 กลุ่ม บี
วันพุธที่ 13 มิถุนายน 2555
สนาม : ลูวีฟ อารีน่า
เดนมาร์ก 2 : 3 โปรตุเกส
ประตู : 0-1 เปเป้ น.24, 0-2 ปอสติก้า น.36, 1-2 เบนด์เนอร์ น.41, 2-2 เบนด์เนอร์ น.80, 2-3 วาเรล่า น.87
คลิปไฮไลท์ ยูโร 2012 เดนมาร์ก 2-3 โปรตุเกส
"ฝอยทอง" โปรตุเกสทีมในดวงใจของแฟนบอลหลายๆคนจำเป็นต้องเก็บ 3 คะแนนแต่เพียงเท่านั้น หากหวังที่จะผ่านเข้ารอบต่อไปให้ได้ เพราะเกมแรกแพ้เยอรมันมา ทำให้พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องชนะเท่านั้น
โรนัลโด้ยังคงสวมปลอกแขนกัปตันทีมนำทัพอยู่เช่นเคย โดยมีนานี่เคยป่วนเกมริมเส้นด้วยกันและปอสติก้ายืนห้อยในแดนหน้า
ด้านเดนมาร์กคึกกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะเกมแรกคว้าชัยชนะมาแบบพลิกล็อกเหนือฮอลแลนด์ ทำให้พวกเขามี 3 คะแนนตุนไว้กับตัว แต่ยังไงนัดนี้ก็คงต้องขอมีแต้มเอาไว้ก่อนเพื่อความชัวร์นั่นแหละ
ครึ่งแรก
ฝอยทองเริ่มต้นคึกน่าดูเลย
สงสัยจะอัดอั้นมาตั้งแต่เกมที่แล้ว ทำให้โปรตุเกสเริ่มต้นกันด้วยความฮึดแบบเต้มที่ วางเกมเดินหน้าใส่เดนมาร์กตั้งแต่หัววัน ก็ขึ้นอยู่กับว่าเกมนี้พวกเขาจะสามารถหาช่องและจบสกอร์ให้คมๆได้หรือไม่
โคนมเงยหน้าได้ไม่สุด
ผ่านช่วง 10 กว่านาทีแรกไป โดนกดอยู่นาน เดนมาร์กก็พยายามโต้ขึ้นมาบ่าง จากจังหวะที่ซิมลิ้งจ่ายยาวอย่างสวยไปหน้าให้กับรอมเมดาลห์ หวังจะตีโต้เอาคืนโปรตุเกสให้ได้ แต่รอมเมดาลห์พักบอลไว้ไม่อยู่ เลยพลาดโอกาสไป
เสียดายแทน!ซิมลิ้งเจ็บซะงั้น
น่าเสียดายสำหรับเดนมาร์กเอามากๆ เพราะตัวที่เล่นดีมาตั้งแต่เกมแรกอย่างซิมลิ้งดันเกิดอาการบาดเจ็บขึ้นมาและต้องถูกถอดออกทันที ก่อนที่จะส่งตัวโพลเซ่นลงไปเล่นแทน
เฉียบเลย!เปเป้ชิงโหม่งแซ่บเว่อร์
นาทีที่ 24 เป็นการเข้าทำที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับเปเป้ ในจังหวะที่โปรตุเกสได้เตะมุมจากมูติญโญ่ที่โยนเข้าไปเสาแรก ก่อนที่ปราการหลังแข้งดุจากเรอัล มาดริดจะพรางตัวสอดขึ้นไปโหม่งสะบัดที่เสาแรกตุงตาข่ายท่ามกลางความสะใจ โปรตุเกสนำ 1-0
ฝอยทองยังรุกน่ากลัวกว่า
ผ่านช่วงครึ่งชั่วโมงไป ยิ่งได้ประตูนำแบบนี้ไม่มีคำว่าเหนี๋ยมอยู่แล้วสำหรับโปรตุเกส พวกเขายังคงเดินหน้าบุกกันต่อไป โดยเฉพาะเกมด้านข้างที่ขึ้นทางนานี่ได้มากพอสมควรเลย
ห่างแล้วจ้า!ปอสติก้าบอกตูก็ยิงเป็นโว้ย
นาทีที่ 36 เกมนำห่างออกไปแล้ว เมื่อโปรตุเกสมาได้ประตูนำห่างจากจังหวะที่นานี่ได้บอลทางนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่จะสบโอกาสแล้วจ่ายทะลุเข้าไปในเขตโทษให้ปอสติก้าวิ่งโฉบเข้าไปชาร์จแปบอลเน้นๆผ่านอันเดอร์เซ่นเข้าไป โปรตุเกสขึ้นไป 2-0
เทพเอาคืน!เบนด์พาโคนมตีไข่แตก
อีก 5 นาทีต่อมา หลังจากพยายามอยู่นานสองนาน เดนมาร์กก็มาทำประตูตีไข่แตกจนได้ จากจังหวะที่ตักบอลยาวเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายที่กองหลังโปรตุเกสทำช่องไว้อยู่ ก่อนที่โครห์น-เดห์ลี่จะโหม่งตั้งเข้ามาแบบถวายพานให้เบนด์เนอร์ได้โขกเผาขนตุงตาข่าย เดนมาร์กใจชื้นได้บ้าง สกอร์มาเป็น 2-1
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีการทำประตูกันได้ ทำให้เกมเป็นฝั่งของโปรตุเกสที่นำอยู่ 2-1 ถือว่ายังได้ลุ้นไม่หนีกันนักสำหรับคู่นี้กับ 45 นาทีที่เหลือ
ครึ่งหลัง
ง่ายไปพี่!โด้จิ๋วลากหลุดแต่ยิงซะนะ
นาทีที่ 50 น่าจะทำได้ดีกว่านี้สำหรับโรนัลโด้ ในจังหวะที่กองหลังของเดนมาร์กลอยขึ้นสูงแล้วโดนโปรตุเกสสวน บอลหลุดไปถึงโรนัลโด้ที่วิ่งหลุดควบเข้าไปถึงกรอบเขตโทษ แต่จังหวะยิงเหมือนจะเกร็งเกินไป ทำให้บอลไม่หนีมือของอันเดอร์เซ่นที่ออกมาเซฟเอาไว้ได้
โคนมอ่วม!ต้องเปลี่ยนรอมเมดาห์ลออกอีก
นาทีที่ 60 ของเกมพอดิบพอดี เดนมาร์กต้องปรับต้องแก้สถานการณ์เฉพาะหน้ากันไปอีก เมื่อจำต้องเปลี่ยนเอารอมเมดาห์ลที่กล้ามเนื้อกระตุกจนเล่นต่อไม่ไหวออกไป แล้วส่งมิเคลเซ่นลงไปเล่นแทน
ได้ลุ้นเลย!ควิสต์ตะบันนอกกรอบ
อีก 3 นาทีต่อมา ถือว่าเป็นจังหวะน่ารักน่าลุ้นของเดนมาร์กเลย เมื่อควิสต์ขอลองส่องบอลนอกกรอบเขตโทษ ตะบันด้วยน้ำหนักแรงใช้ได้ แต่ติดอย่างเดียวที่พุ่งหลุดออกไปนอกกรอบ แต่ดูจากน้ำหนักถ้าทิศทางใช้ได้ ปาทริซิโอ้คงลำบากแน่ๆ
ปอสติก้าออกแล้ว
ผู้ทำประตูที่สองในเกมนี้ของโปรตุเกสอย่างปอสติก้าถูกเปลี่ยนตัวออกไปจากสนาม โดยทีมเลือกส่งโอลิเวียร่าลงไปเล่นแทน ต้องดูว่าจะทำผลงานได้แตกต่างไปมากน้อยเพียงใด
โคนมกดดันได้ดีขึ้น
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ต้องชมว่าเกมของเดนมาร์กหลังจากพักครึ่งมาก็ปรับแก้มาได้ดี มีมิติมากขึ้นในเกมรุก แถมยังได้จังหวะลากเลื้อยนักเตะที่มีความสามารถเฉพาะตัวเสริมขึ้นมา แต่ก็จะประมาทเกมสวนกลับของโปรตุเกสไม่ได้เช่นเดียวกัน
อะไรของนาย!โด้จิ๋วโล่งโคตรยิงหลุด
นาทีที่ 78 พลาดแบบไม่น่าเชื่อเลยจริงเชียวสำหรับโรนัลโด้ เพราะคราวนี้เขาหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตู พร้อมเลือกทางยิงได้แล้ว แต่กลับซัดเบี่ยงไม่เข้ากรอบไปซะอย่างนั้น เหลือเชื่อจริงๆ
กูชื่อเบนด์เนอร์!โขกอีกเม็ดสนั่น
อีก 2 นาทีต่อมา ในเมื่อมีโอกาสแล้วทำไม่ได้กันเองก็ต้องเจอแบบนี้สำหรับโปรตุเกส เมื่อมาประกบกันหลวม ปล่อยให้เดนมาร์กได้ครอสบอลจากด้านข้างยาวไปเสาสองให้กับเบนด์เนอร์ที่แม้จะขึ้นทีหลังเปเป้ แต่ก็ได้โหม่งแบบเหน่ง บอลติดปลายมือของปาทริซิโอ้อยู่นิดหน่อย แต่ไม่พ้น บอลแฉลบเสาเข้าประตูไป เดนมาร์กเฮตามตีเจ๊าสำเร็จ 2-2
ซูเปอร์ซัพ!วาเรล่าหวดตูมเดียวหายเลย
นาทีที่ 87 โปรตุเกสพื้นจากความผิดหวังจากไม่น่าเชื่อ เมื่อพวกเขาพยายามบอมบ์ใส่เดนมาร์กเต็มที่ ก่อนที่บอลจะตกลงไปโดนโรนัลโด้ที่จับบอลไม่อยู่ แต่เลยไปถึงวาเรล่าที่เพิ่งจะลงมาเล่นได้ไม่นาน ยิงครั้งแรกวืด แต่บอลไม่ไปไหน พี่แกเลยซัดอีกดอก บอลพุ่งผ่านกองหลังที่ยืนบังอันเด็นเซ่นที่พุ่งยังไงก็ไม่ทัน โปรตุเกสนำอีกครั้งเป็น 3-2
จบ 90 นาทีเป็นโปรตุเกสที่เอาชนะเดนมาร์กไปแบบเยี่ยวแทบลุ้นเยี่ยวแทบราด 3-2 มีเพิ่มมาเป็น 3 คะแนน ต่อลมหายใจที่จะไปลุ้นกับฮอลแลนด์ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มยูโร 2012
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เดนมาร์ก : สเตฟาน อันเดอร์เซ่น, ดาเนียล แอกเกอร์, ไซม่อน คชาร์, ซิมง โพลเซ่น, ลาร์ส จาค็อบเซ่น, นิกิ ซิมลิ้ง(โพลเซ่น น.16), วิลเลี่ยม ควิสต์, ไมเคิ่ล โครห์น-เดห์ลี่(โชน น.90), เดนนิส รอมเมดาห์ล(มิเคลเซ่น น.60), นิคลาส เบนด์เนอร์, คริสเตียน อีริคเซ่น
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, คริสเตียน โพลเซ่น, อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, โธมัส คาห์เลนเบิร์ก, ไมเคิ่ล ซิลเบอร์บาเออร์, อันเดรียส เบลแลนด์, นิคลาส พีเดอร์เซ่น, ดาเนียล วาสส์, โยเรส โอโคเร่
โปรตุเกส:รุยส์ ปาทริซิโอ้, เปเป้, บรูโน่ อัลเวส, ฟาบิโอ โคเอ็นเทรา, เจา แปเรร่า, มิเกล เวโลโซ่, เจา มูติญโญ่, ราอูล เมเรเลส(วาเรล่า น.84), คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เฮลเดอร์ ปอสติก้า(โอลิเวียร่า น.64), นานี่(โรแลนโด้ น.89)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : ฮูโก้ เวียน่า, ริคาร์โด้ กวาเรสม่า, ฮูโก้ อัลเมด้า, ริคาร์โด้ คอสต้า, ดิแอส เด คาสโตร, รูเบน มิคาเอล, เบโต้, มิเกล โลเปส, เอดูอาร์โด้
http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=615603&sid=f5b52444b3a40fc17f819ae6ae8a9761
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น