ยินดีต้อนรับ
วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสโมสร
1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน
2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา
ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ
3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น
4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน
1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน
2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา
ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ
3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น
4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน
วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555
สวัสดียูโร 2012 : แนะนำทีมชาติสเปน
"กระทิงดุ"สเปนถีบตัวเองขึ้นมาเป็นชาติมหาอำนาจได้สำเร็จหลังการคว้าแชมป์ยูโร 2008 และฟุตบอลโลก 2010 ด้วยสไตล์การเล่นที่เรียกว่า"ติกิ-ตาก้า"ซึ่งเน้นการเคาะบอลจังหวะเดียวหรือสองจังหวะเป็นหลักจนยากที่จะหาทีมมาต่อกรทำให้พวกเขายังเป็นเต็งหนึ่งในการคว้าแชมป์ยูโร 2012 ไปเชยชม
"ลา โรฆ่า"มีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญหากว่าพวกเขาเช็คบิลแชมป์ที่ยูเครนและโปแลนด์ในซัมเมอร์นี้เพราะไม่เคยมีประเทศไหนที่ป้องกันแชมป์ยุโรปได้รวมทั้งไม่มีประเทศของทวีปอื่นใดที่สามารถคว้าแชมป์รายการเมเจอร์ได้ 3 ถ้วยรวดเดียว
ทั้งนี้สเปนเริ่มประกาศศักดาความเป็นสุดยอดชาติฟุตบอลยุคใหม่มาตั้งแต่รอบควอเตอร์ไฟน่อลยูโร 2008 ที่สามารถดวลจุดโทษเอาชนะอิตาลีที่มีดีกรีเป็นแชมป์โลก 2006 จากฝีมือการเซฟของอิเคร์ คาซิญาสนายด่านจากเรอัล มาดริด ที่สุดแล้ว"กระทิงดุ"ก็สามารถคว้าแชมป์ได้ในบั้นปลายแถมยังติดเครื่องโซโล่มาซิวแชมป์ฟุตบอลโลกได้อีกในสองปีถัดมาหลุดพ้นจากการถูกตราหน้าว่าเป็นพวก"หมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อม"ได้สำเร็จ
สเปนภายใต้การนำทัพของบิเซนเต้ เดล บอสเก้ยังคงรูปแบบของการเล่นฟุตบอลจังหวะเดียวที่แม่นยำซึ่งนักเตะแต่ละคนจะผ่านบอลก็ต่อเมื่อแน่ใจว่าถึงปลายเท้าเพื่อนร่วมทีม เมื่อรวมกับแนวรับที่แข็งแกร่งภายใต้การสั่งการของนายทวารระดับโลกอย่างคาซิญาสทำให้"กระทิงดุ"อาจกลายเป็นชาติแรกที่คว้าแชมป์ยุโรปแบบไปกลับโดยมีแชมป์ฟุตบอลโลกคั่นกลาง
อย่างไรก็ตามสเปนก็มีสิ่งที่ต้องกังวลใจเช่นกันเมื่อพวกเขาต้องขาดสองผู้เล่นคนสำคัญอย่างดาบิด บีญ่าที่ยังไม่ฟิตสมบูรณ์จากการขาหักในเดือนธันวาคมและคาร์เลส ปูโญลที่มีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า โดยเฉพาะรายแรกที่"ลา โรฆ่า"อาจไม่สามารถคว้าแชมป์ยูโร 2008 และฟุตบอลโลก 2010 ได้หากปราศจากเขาซึ่งกดไป 51 ประตูจาก 82 เกมในนามทีมชาติ
ขณะที่ผู้มาแทนอย่างเฟร์นานโด ตอร์เรสก็มีปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นมาตั้งแต่ย้ายจากลิเวอร์พูลไปค้าแข้งกับเชลซี แต่เดล เบสเก้ใจไม่แข็งพอที่จะดัดชื่อนักเตะที่กดประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศยูโร 2008 กับเยอรมนีได้ โชคยังดีที่หลังการเปลี่ยนผู้จัดการทีมของ"สิงห์บลูส์"ทำให้เจ้าตัวกลับมาล่าตาข่ายได้บ้างแล้วรวมทั้งยังพังประตูได้ในเกมอุ่นเครื่องกับเกาหลีใต้ในวันที่ 30 เมษายน
นอกจากตอร์เรสแล้วทีมชาติสเปนยังมีผู้เล่นแดนหน้าคนอื่นอย่างเฟร์นานโด ญอเรนเต้, อัลบาโร เนเกรโด้และเปโดร โรดริเกวซไว้เป็นตัวเลือก ขณะที่แดนกลางอันเป็นจุดแข็งของทีมยังอุดมไปด้วยแข้งเทคนิกสูงที่สามารถจบสกอร์ได้เองอย่างอันเดรส อิเนียสต้า, เชส ฟาเบรกาสและชาบี เอร์นานเดซรวมไปถึงดาบิด ซิลบา แถมเดล บอสเก้ยังสามารถปรับแผนมาบุกแหลกด้วยระบบ 4-2-4 ได้เช่นกันโดยวางชาบี อลอนโซ่ผนึกกำลังเซร์คิโอ บุสเก็ตส์ที่บริเวณกลางสนาม ด้วยคุณภาพเหล่านี้ทำให้สเปนคือเต็งหนึ่งของทัวร์นาเม้นต์ยูโรอย่างไม่ต้องสงสัย
รายชื่อผู้เล่น 23 คนสุดท้าย
ผู้รักษาประตู :อีเกร์ กาซียาส (เรอัล มาดริด), บิคตอร์ บัลเดส (บาร์เซโลน่า), โฆเซ่ มานูเอล เรน่า (ลิเวอร์พูล)
กองหลัง : ราอูล อัลบิโอล (เรอัล มาดริด), เคราร์ด ปิเก้ (บาร์เซโลน่า), ฆาบี มาร์ติเนซ (แอธเลติก บิลเบา), ฆวนฟราน ตอร์เรส (แอตเลติโก มาดริด), เซร์คิโอ รามอส (เรอัล มาดริด), อัลบาโร่ อาร์เบลัว (เรอัล มาดริด), จอร์ดี้ อัลบา (บาเลนเซีย)
กองกลาง : อันเดรส อิเนียสต้า (บาร์เซโลน่า), ชาบี เอร์นานเดซ (บาร์เซโลน่า), เชส ฟาเบรกาส (บาร์เซโลน่า), ฆวน มาต้า (เชลซี), ชาบี อลอนโซ่ (เรอัล มาดริด), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ (บาร์เซโลน่า), ซานติ กาซอร์ล่า (มาลาก้า), ดาบิด ซิลบา (แมนฯ ซิตี้), เฆซุส นาบาส (เซบีย่า)
กองหน้า : เปโดร โรดริเกซ (บาร์เซโลน่า), เฟร์นานโด ตอร์เรส (เชลซี), อัลบาโร่ เนเกรโด้ (เซบีย่า), เฟร์นานโด ญอเรนเต้ (แอธเลติก บิลเบา)
http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=612454&sid=858aa82251829cef470ccc82ae5188de
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น