ยินดีต้อนรับ

วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสโมสร

1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน

2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา

ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ

3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น

4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน



วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2555

หวิดเจ๊ง!นาบาสยิง น.88 กระทิงหืดจับเขี่ยหมากรุกร่วงยูโร

เกือบไปแล้วจริงๆสำหรับทีมชาติสเปน เพราะพวกเขาหวิดเสียประตูแบบจังเบอร์ถึง 2 ลูก แต่ได้คาซิญาสเซฟช่วยไว้ ก่อนจะมาทำประตูสุดสำคัญได้จากนาบาสที่สวมบทซูเปอร์ซัพในนาทีที่ 88 ทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่ม พร้อมเขี่ยโครเอเชียพ้นยูโร 2012 ไป ยูโร 2012 กลุ่ม ซี วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2555 สนาม : พีจีอี อารีน่า โครเอเชีย 0 : 1 สเปน ประตู : 0-1 นาบาส น.88 คลิปไฮไลท์ ยูโร 2012 อิตาลี 2-0 ไอร์แลนด์ สเปนยังคงใช้กองหน้าเป็นตอร์เรสที่กำลังมั่นใจสุดๆ จากการทำไป 2 ประตูในเกมกับไอร์แลนด์และต้องรอดูว่าวันนี้เขาจะเรียกความมั่นใจเพิ่มไปอีกขั้นได้หรือไม่ แดนกลางยังคงมีตัวปั้นเกมเจ๋งๆอย่างชาบี, อีเนสต้า, อลอนโซ่และซิลบาที่จะคอยชิ่งทำเกมหาช่องเจาะให้ตอร์เรสได้ส่องสักตุงสองตุง ด้านโครเอเชีย โมดริชลงเป็นจอมทัพดังเดิม โดยใช้มานด์ซูกิซยืนศูนย์หน้าหวังจะทะลวงประตูของทางทีมแชมป์เก่าให้ได้บ้าง เพราะแม้ว่าพวกเขาจะต้องการแค่ผลเสมอ แต่การจบลงด้วยผลเสมอแบบไม่มีสกอร์นั้นก็เสี่ยงต่อการตกรอบอยู่เหมือนเดิม ครึ่งแรก หน้าวิทย์หลุดไปยิงซะไม่น่าลุ้น ผ่านช่วง 10 นาทีแรกไป เกมนี้เหมือนจะค่อนข้างเกร็งอยู่เหมือนกัน เพราะเซ็ตเกมกันแบบค่อนข้างระวังตัวพอสมควร ก่อนที่จะมามีโอกาสให้ได้ลุ้นเบาๆ ดีกว่านั่งเหงาเฉยๆ จากการที่อีเนสต้าวิ่งหลุดผ่านกองหลังเข้าไป แต่จังหวะยิงเหมือนส่งคืนให้เปลติโกซ่าที่รับเอาไว้ได้ สบายๆ ยัดไส้!ตอร์เรสมั่นขอยิงมุมแคบ นาทีที่ 22 คนกำลังมั่นใจ ทำอะไรก็ขอใส่ได้หมด เมื่อตอร์เรสได้บอลทางฝั่งขวาของกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะกระชากหลอกกองหลังของโครเอเชียสวย ทำให้หลุดไปได้ แม้ว่ามุมจะแคบเกือบมิด แต่ด้วยความมั่นใจที่มีตอนนี้พี่แกเลยจัดการยิงยัดไปที่เสาแรก แต่ก็ติดเซฟของเปลติโกซ่าซึ่งใช้หัวแทงบอลออกหลังไปได้ กระทิงโอกาสเริ่มมา หลังจากหาช่องกันอยู่พักใหญ่ ตอนนี้สเปนเริ่มสบโอกาสเห็นช่องมากขึ้น แม้ว่าจะไม่ใช่จังหวะลุ้นเสียวมากมาย แต่การที่ขึ้นเกมไปแล้วมีจังหวะจบก็ถือว่าทำได้ดีขึ้นมาเรื่อยๆแล้ว แอบโหดอยู่นะ!รามอสเปิดใส่มานด์ซูกิซ นาทีที่ 27 แม้ว่าจะเป็นจังหวะที่โดนบอล แต่ดูภาพช้าแล้วเสียวหักแทนจริงๆ สำหรับจังหวะของมานด์ซูกิซที่อาศัยบอลขลุกขลิกหนีจากปิเก้ได้แล้ว เลยว่าจะเปิดครอสจากด้านข้างเข้าไปให้เพื่อน แต่จังหวะหวดโดนรามอสพุ่งเข้ามาเปิดปุ่มเสียบเข้าใส่ทั้งบอลทั้งคน จนทำให้แข้งโวล์ฟบวร์กลงไปนอนเจ็บอยู่นานสองนาน กว่าจะลุกขึ้นมาได้ เกมกลับมาตื้อเหมือนเดิม เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ตอนนี้เกมกลับมาเป็นตันๆกันเหมือนเดิมแล้ว เพราะโครเอเชียยังเล่นกันเหนียวแน่นเหมือนเดิม ส่วนสเปนจากที่เห็นๆช่องตอนนี้ก็กลับมาตีบ ต้องคอยเคาะหาจังหวะกันต่อไปอีก หน้าหนูแทบหาทางไปไม่ได้ นาทีที่ 42 จังหวะของสเปนที่ใช้ลูกชิ่งจ่ายบอลกันตามช่องนั้นยังติดปัญหาอยู่ เพราะวันนี้โครเอเชียยืนกันแน่นจริงๆ แม้ว่าจะใช้ความสามารถเฉพาะตัวจากซิลบาที่พยายามจะแหวกผ่านกองหลังเข้าไป แต่สุดท้ายตันต้องวกกลับจนได้ แน่นเกิน จบ 45 นาทีแรก ด้วยการที่เกมมันค่อนข้างบีบหัวใจ รวมทั้งเดิมพันกันสูงเหลือเกิน ทำให้ทั้งสองฝ่ายเล่นกันแบบรัดกุมพอสมควร เอาแบบถ้าบุกไม่ได้ ตูก็ไม่อยากเสีย เลยต้องไปลุ้นกันอีกทีใน 45 นาทีที่เหลือ ครึ่งหลัง กระทิงยังต่อกันไม่ติด จังหวะพื้นที่สุดท้ายของสเปนยังต่อกันไม่ติดสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะในครึ่งหลังนี้มีจังหวะพยายามจะจ่ายบอลวัดใจ 50-50 ให้ตอร์เรสอยู่ 2-3 ครั้ง แต่เหมือนจะไปคนทางกันหมด เกมมันก็เลยยังไม่ได้มีอะไรให้ลุ้นเหมือนเดิม ชาบูพี่อีเคร์!ติดลูกโหม่งจ่อราคิกิซ นาทีที่ 59 เกือบงานงอกแล้วสำหรับสเปน เพราะบุกเขาแล้วทำไม่ได้ เลยมาเจอลูกสวนกลับของโครเอเชียจากโมดริชที่กระชากขึ้นทางขวา ก่อนจะเปิดปั่นไซด์ก้อยไปเสาสองให้ราคิกิซได้โหม่งโล่งๆคนเดียว แต่นั่นไม่ผ่านมือของคาซิญาสที่ยืนปิดพื้นที่เอาไว้เหนียวแน่น ปัดได้ก่อน แม้กองหลังจะเคลียร์กันมั่วๆจนโโนซ้ำอีกดอก แต่บอลมันปลิ้นไม่ตรงกรอบ เลยสกัดรอบสองออกไปได้ มันมาอีกแล้ว!กระทิงถอดตอร์เรส-ไร้กองหน้า อีก 2 นาทีต่อมา กลับมาสู่แท็คติกที่เคยโดนวิจารณ์หนักมาก่อนอีกครั้ง สำหรับเดล บอสเก้ที่ตัดสินใจถอดเอากองหน้าคนเดียวในสนามอย่างตอร์เรสออก แล้วส่งนาบาสลงไปเล่นแทน ทำให้ตอนนี้สเปนไม่มีกองหน้าธรรมชาติอยู่ในสนามเลย ต้องเสี่ยง!หมากรุกจัดเยลาวิชลง นาทีที่ 65 ต้องใช้กองหน้าคู่เพื่อลุ้นประตูแล้วสำหรับโครเอเชีย เมื่อพวกเขาจัดการส่งตัวเยลาวิชลงสนามแทนปรานยิช รวมทั้งเปริซิสลงเล่นแทนวีด้า ต้องดูว่าเกมรุกจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่ ชิลเดนเฟลด์กันไว้ได้หมด เกมนี้แนวรับของโครเอเชียต้องขอบคุณชิลเดนเฟลด์เอาไว้มากๆเลย เพราะเขามักจะไปโผล่อยู่ในจุดที่สเปนจะพยายามเข้าทำ เข้ายิงประตูอยู่ตลอด จนสกัดทิ้งออกไปได้หมด ปิดโอกาสแชมป์เก่าได้เยอะเลย ตัวนำโชค!?กระทิงส่งเชสก์ลง นาทีที่ 73 ก่ะให้นำโชคลงแล้วทำประตูอะไรแบบนั้น สำหรับสเปนที่ส่งฟาเบรกัสลงไปเล่นแทนซิลบาซึ่งวันนี้พยายามทั้งจ่ายทั้งลากเลื้อยแต่ก็ไม่แผลงฤทธิ์เท่าไหร่ออก พี่อีเคร์อีกแล้ว!กระทิงโดนกดดัน นาทีที่ 79 เกือบจะโดนอีกแล้วสำหรับสเปน จากจังหวะสวนกลับรูปแบบไม่ต่างกันกับจังหวะแรกของโครเอเชียที่มานด์ซูกิซโยนบอลสลับข้างไปให้เปริซิสพักอก แล้ววอลเล่ย์จังหวะแรก บอลพุ่งแฉลบพื้นด้วย แต่ก็ยังไม่ผ่านมือของคาซิญาสที่ป้องกันเอาไว้ได้อีกครั้ง โล่งกันใหญ่!กระทิงได้ประตูสุดสำคัญ นาทีที่ 88 ในที่สุดก็มาได้ประตูขึ้นนำตามที่หวังจนได้สำหรับสเปน เมื่อพวกเขาหลุดจากกับดักล้ำหน้า อิเนสต้าหลุดเข้าไปตักบอลเข้ากลางให้กับนาบาสหวดเต็มเท้าเข้าไปตุงตาข่าย สบายใจได้สุดๆ เพราะถึงโดนตีเสมอก็ยังเข้ารอบอยู่ดี ช่วงท้ายก็ไม่ได้มีจังหวะให้ลุ้นอะไรมากนัก ก่อนที่จบ 90 นาทีสเปนจะเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 1-0 เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยการเป็นที่ 1 ของกลุ่มและด้วยการที่อิตาลีเก็บชัยชนะได้ ทำให้โครเอเชียต้องตกรอบไปแบบชอกช้ำในที่สุด รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม โครเอเชีย : สติเป้ เปลติโกซ่า 7.5, กอร์ดอน ชิลเดนเฟลด์ *7.5, เวดราน ชอร์ลูก้า 7, อีวาน สตรินช 7, โดมากอจ วิด้า 6.5(เปริซิส น.66, 7),อ๊อกน์เยน วูโกเซวิช 6.5 (เอดูอาร์โด้ น.81), อีวาน รากิติซ 6.5, ดานิเยล ปรานยิช 7(เยลาวิช น.66, 7), ดาริโฆ เซอร์น่า 7, มาริโอ มานด์ซูกิซ 5, ลูก้า โมดริช 7 ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : นิโก้ ครันชาร์, โจซิป ซิมูนิซ, โทมิสลาฟ ดุจโมวิช, อีวาน เคลาว่า, นิโกล่า คาลินิซ, มิลาน บาเดลจ์, ดานิเยล ซูบาซฺส, จูริก้า บูลจัต, ซิเม่ เวอร์ซาลจ์โค้ สเปน :อีเคร์ คาซิญาส 7, แซร์คิโอ้ รามอส 7, เคร์ราร์ด ปิเก้ 7, ฆอร์ดี้ อัลบา 6.5, อัลวาโร่ อาร์เบลัว 6.5, แซร์คิโอ้ บุสเก็ตส์, ชาบี อลอนโซ่ 7, ชาบี เอร์นานเดซ 7 (เนเกรโด น.89, N/A), อังเดรียส อิเนสต้า 7, เฟร์นานโด ตอร์เรส 6 (นาบาส น.61, 7.5), ดาบิด ซิลบา 7(ฟาเบรกัส น.73, 7) ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : เปเป้ เรน่า, วิคตอร์ บัลเดส, ซานติ คาซอร์ล่า, ราอูล อัลบิโอล, เฟร์นานโด ญอเรนเต้, ฟรานซิสโก้ ฮวนฟราน, ฆาบี้ มาร์ติเนซ, ฆวน มาต้า, เปโดร http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=618020&sid=fa68047e3efe66fc0a6ac9ce1c803fd4

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น