ยินดีต้อนรับ

วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสโมสร

1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน

2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา

ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ

3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น

4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน



วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เปานำชัย!สากดิจิตอล-หม่อมเหยินฮีโร่หงส์ซัดท๊อฟฟี่ 2-0

มาร์ติน แอ็ตกินสันผู้ตัดสินทำศึกเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้แมทช์งานกร่อยหลังให้ใบแดงแจ็ค รอดจ์เวลล์ค้านสายตาก่อนที่ลิเวอร์พูลมาเช็กบิลเอฟเวอร์ตันท้ายเกมจากประตู ของแอนดี้ แคร์โรลล์และหลุยส์ ซัวเรซเฮฮารับเดือนใหม่ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2554 สนาม : กูดิสัน ปาร์ค เอฟเวอร์ตัน 2:0 ลิเวอร์พูล ประตู : 1-0 คาร์โรลล์ น.71, 2-0 ซัวเรส น.82 นัดนี้เป็นเมอร์ซี่ย์ไซด์ดาร์บี้แมตซ์ครั้งที่ 185 แล้วโดยเจ้าบ้านเอฟเวอร์ตันเลือกส่งหลุยส์ ซาฮาลงมาค้ำในแดนหน้าและทิม เคฮิลล์ก็ฟิตพอลงสนามได้ แต่ในดาร์บี้ช่วงหลังมานี้พวกเขาเอาชนะคู่ปรับได้เพียงแค่นัดเดียวเท่านัน ้จาก 9 นัดหลังสุดคือเกมที่"ท๊อฟฟี่"เอาชนะไป 2-0 ที่นี่ในซีซั่นที่แล้ว ด้านลิเวอร์พูลก็เลือกให้เคาท์ลงสนามไปเล่นเป็นปีกขวาแทนที่ของเฮนเดอร์สัน และยังไว้ใจให้คาร์โรลล์ลงเล่นกองหน้าคู่กับซัวเรสอยู่ ส่วนในตำแหน่งอื่นก็ยังเหมือนๆเดิม นอกจากนี้สถิติถือว่าข่มกันเล็กน้อยเพราะ"หงส์แดง"สามารถคว้าชัยในถิ่นกูดิ สัน ปาร์คได้ถึง 3 ใน 4 นัดหลังที่ผ่านมา ครึ่งแรก พี่ฟูลองส่องทักทายก่อน เปิดฉากมาเพียงแค่ 2 นาทีเจ้าบ้านก็ได้ลุ้นก่อนเลยจากจังหวะที่แย่งกันโหม่งในกรอบเขตโทษแต่โดน สกัดออกมาเข้าทางเฟลไลนี่เอาลงบอลก่อนแล้วซัดด้วยซ้ายบอลแฉลบออกหลังไป ซัวเรสโขกจ่อๆแต่เบาไป นาทีที่ 8 "หงส์แดง"ได้ลุ้นเกือบเป็นประตูจากจาเกียลก้าที่สกัดลูกโยนยาวทิ้งมาทางซ้าย ไม่ดีจนบอลลอยโด่งโดนเคาท์เก็บตกได้ก่อนเปิดไปที่กรอบหกหลาให้ซัวเรสได้ โขกกดลงพื้นแต่เบาเกินไปทำให้ฮาเวิร์ดมารับเข้าซองทัน ทันควัน!เคฮิลล์โหม่งโดนปัดทิ้ง แต่"ท๊อฟฟี่"เองก็โต้กลับมาทันควันและเกือบได้ประตูเช่นกันจากโคลแมนที่ได้ บอลทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนจะหยอดลึกไปเสาไกลให้เคฮิลล์ที่โชว์พลังกระโดดเอา ชนะคาร์ราเกอร์และได้โขกแต่เรน่ายังบินปัดออกหลังไปทัน ซาฮาลองส่องไกลดู เกมยังผลัดกันครองบอลอยู่แต่เอฟเวอร์ตันได้ลุ้นเยอะกว่าโดยคราวนี้เป็น จังหวะที่ฮิบเบิร์ตเติมขึ้นมาก่อนจะจ่ายให้ซาฮาเลี้ยงตัดเข้าในจากขวาแล้ว เล็งเหลี่ยมก่อนจะซัดบอลพุ่งโค้งหลุดเสาไกลไปแค่นิดเดียวเท่านั้น เอาแล้ว!รอดเวลล์เสียบสังเวยแดง นาที 22 เกิดเหตุการณ์พลิกผันขึ้นมาได้หลังแจ๊ค รอดเวลล์ไปเสียบแย่งบอลจากซัวเรสโดยโดนบอลบอลก่อนและแข้งก็ไปปะทะเข้ากับซัว เรส มาร์ติน แอทกินสันไม่รอช้าวิ่งมาหาพร้อมแจกใบแดงทันทีทำแฟนบอลเจ้าบ้านโห่กันระนาว ซัวเรสซัดมุมแคบเข้าข้างตาข่าย กระแสของเกมกลายเป็นฝั่งทีมเยือนที่ได้บุกเข้าใส่เยอะกว่าแต่ก็ยังหาจังหวะ จบไม่ได้เลยโดนสกัดออกไปตลอดจนกระทั้งนาที 32 ได้ลุ้นจากซัวเรสคนเดิมที่วิ่งได้รับบอลทะลุช่องจากเคลลี่ก่อนหลุดเข้าไปซัด มุมแคบแต่ก็เข้าแค่ข้างตาข่าย หงส์ครองบอลบุกแต่ยังหาช่องไม่ได้ เข้าสู่ช่วงท้ายแล้วแม้เกมจะยังเป็นของ"หงส์แดง"อยู่แต่ก็ยังคงหาช่องเจาะ ไม่ได้เหมือนเดิมโดยทำได้เพียงแค่เข้าไปลุ้นในเขตโทษแต่ก็โดนสกัดทิ้งออกมา โธ่พี่ครก!ซัดโทษติดเซฟฮาเวิร์ด แต่แล้วแฟนเจ้าบ้านเซ็งเป็นแถบหลังจู่ๆก็มาเสียจุดโทษเฉยจากจังหวะจาเกีย ลก้าเข้ามาชนกับซัวเรสจนล้มลงไปในเขตโทษ แอทคินสันไม่รอช้ามอบจุดโทษให้"หงส์แดง"และเป็นเคาท์รับหน้าที่ยิงไปที่มุม โคนเสาขวามือแต่ฮาเวิร์ดก็พุ่งมาเซฟจุดโทษได้ ทำเอาแฟนทีมเยือนเซ็งแทนเลยทีนี้ ยังไม่เป็นประตู!อดัมซัดชนคาน ทดเจ็บ"หงส์แดง"ก็เกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากชาร์ลี อดัมที่ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนจะแต่งหนึ่งทีแล้วสับไกด้วยซ้าย บอลพุ่งไซร้ก้อยหนีมือฮาเวิร์ดไปแล้วแต่โชคยังเข้าข้างไม่พอโดนชนคานอย่าง จัง ชวดได้ประตูแรกไปอีกครั้ง จากนั้นก็จบเกมในครึ่งแรกไปเอฟเวอร์ตันที่เหลือ 10 ตัวยังคงยันเสมอ 0-0 กับลิเวอร์พูลได้อยู่ ครึ่งหลัง เคลลี่ส่องไกล เริ่มครึ่งหลังมา 2 นาที"หงส์แดง"ก็ได้ลุ้นก่อนเลยจากเคลลี่ทีไ่ด้รับบอลมาจากอดัมก่อนจะลองส่อง ไกลจากหน้าเขตโทษเลยแต่ฮาเวิร์ดก็ยังคงเซฟไว้ได้อยู่ ซาฮายิงหลุดเสา 10 คนของเจ้าบ้านก็ได้ลุ้นจากเฟลไลนี่ที่เลี้ยงเข้ามาก่อนส่งให้เคฮิลล์ในเขต โทษและเคฮิลล์ก็จ่ายให้ซาฮาอีกทีได้ลองยิงดูแต่บอลก็หลุดเสาออกหลังไป คาร์โรลล์โขก!ซาฮาสกัดจากปากประตู นาที 53 "หงส์แดง"ก็ได้ลุ้นอีกจากจังหวะที่เปิดเข้าไปลุ้นในเขตโทษและเป็นคาร์โรลล์ ที่ได้ขึ้นโขกบอลกลางประตู แต่ซาฮาก็ยังยืนถูกที่ถูกเวลาล้มตัวสกัดลูกโหม่งออกจากหน้าปากประตูไปได้ มาอีก!คาร์โรลล์โหม่งแฉลบเกือบเข้า ทีมเืยือนยังได้ลุ้นอยู่เรื่อยๆและคราวนี้ก็เป็นลูกโหม่งของคาร์โรลล์อีก แล้วจากจังหวะเตะมุม บอลไปฉลบนักเตะที่กองกันอยู่หน้าประตูเกือบจะเสียบเสาเข้าไปแต่ฮาเวิร์ดยัง คงปัดออกหลังไปทัน ซาฮาลองส่องไกลหลุดเสานิดเดียว "ท๊อฟฟี่"ยังเตือนลิเวอร์พูลเรื่อยๆว่าอย่าได้ประสาทเป็นอันขาดหลังซาฮาได้ บอลหน้าเขตโทษก่อนจะพลิกกลับมาแล้วอยู่โล่งๆไร้คนประกบเลยตัดสินใจสับไก 25 หลาเลยบอลถากเสาไปนิดเดียวทำเอาเรน่าต้องโวยเพราะซาฮาโล่งเกินไป ซัวเรสโขกลอยข้ามคาน นาที 68 ลิเวอร์พูลก็ได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกฟรีคิกทางขวารับหน้าที่เปิดเข้าเขตโทษโดย เจอร์ราร์ดที่ลงมาใหม่ บอลลอยไปถึงทางเสาไกลและเป็นซัวเรสที่ได้โขกแต่ก็โดนเบียดไว้ทำให้กดไม่ลง ลอยออกหลัง ยิงแล้วนะ(โว้ย)!คาร์โรลล์ซัดพาหงส์ออกนำ ในที่สุด"หงส์แดง"ก็ได้ประตูขึ้นนำเสียทีจากเบลลามี่ที่จ่ายให้เอ็นริเก้ เติมขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะหลุดไปเปิดถึงสุดเส้นหลังเข้าไปหน้าประตู เคาท์ที่อยู่เสาแรกตัดสินใจก้มหลบบอลปล่อยให้คาร์โรลล์ที่อยู่ข้างหลังได้ ยิงเข้าประตูไม่เหลือ กลายเป็นคอนเนคชั่นของเด็กเก่านิวคาสเซิ่ลส่งให้ลิเวอร์พูลออกนำเอฟเวอร์ตัน 1-0 แล้ว ถีบจักรยิงเข้าซอง ทีมเยือนยังเดินหน้าหาประตูที่สองต่อไปและก็เกือบจะได้เช่นกันจากจังหวะที่ เบลลามี่ได้บอลอยู่ทางซ้ายก่อนจะตัดเข้าในแล้วลองง้างไกยิงดูแต่ก็ยังไม่คม พอเข้าซองฮาเวิร์ด ท๊อฟฟี่มอบโชค!สกัดพลาดซัวเรสซัด แต่แล้วนาที 81 กองหลังเจ้าบ้านก็แจกโชคให้ทีมเยือนเฉยจากจังหวะที่ซัวเรสเลี้ยงเข้าเขตโทษ เบนส์เข้ามาตัดบอลได้แล้วดิสแต็งมาช่วยสกัดแต่ดันเตะไปติดตัวซัวเรส ทำให้บอลไม่ไปไหนเข้าทางปืนได้ยิงผ่านมือฮาเวิร์ดเข้าไปเลย ลิเวอร์พูลนำห่างเป็น 2-0 แล้ว เบนส์ส่องไกลหลุดเสาแรก "ท๊อฟฟี่"ยังคงไม่ยอมแพ้หลังเบนส์เติมเกมขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะลองสับไกดูเลย แต่บอลก็เลี้ยวหลุดเสาแรกออกหลังไปแบบไม่เดือดร้อนเรน่า เสียวท้ายเกม!เคาท์ยิงชนเสา เกือบจะบวกเป็นสามแล้วหลังทดเจ็บลิเวอร์พูลลองลักไก่เล่นไว เตะมุมเล่นง่ายๆให้เคาท์ในเขตโทษควบมาชาร์ตบอลผ่านมือไปแล้วแต่โดนเสาซะงั้น ก่อนจะโดนเคลียร์ออกไป สุดท้ายแล้วเอฟเวอร์ตันที่เหลือ 10 ก็ไม่สามารถต้านทานลิเวอร์พูลจบเกมพ่ายไป 2-0 ทำให้"หงส์แดง"ขยับขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 4 เหนือนิวคาสเซิ่ลก่อนชั่วคราว ส่วนเอฟเวอร์ตันยังคงอยู่ในอันดับที่ 11 เหมือนเดิม รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาร์เวิร์ด, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, ฟิล จาเกียลก้า, เลห์ตัน เบนส์, โทนี่ ฮิบเบิร์ต (เวลิออส น.78), แจ๊ค รอดเวลล์, มารูยาน เฟลไลนี่, ลีออน ออสมัน (เนวิลล์ น.69), เซมุส โคลแมน (เดรนเธ่ น.59), หลุยซ์ ซาฮา, ทิม เคฮิลล์ สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : ดินิยาร์ บิลยาเลทดินอฟ, เดนิส สตรากัวลูร์ซี่, แยน มูช่า, รอส บาร์คลี่ย์ เอฟเวอร์ตัน : เปเป้ เรน่า, เจมี่ คาร์ราร์เกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, โฆเซ่ เอ็นริเก้, มาร์ติน เคลลี่, ชาร์ลี อดัม (เจอร์ราร์ด น.66), ลูคัส เลว่า (เฮนเดอร์สัน น.88), สจวร์ต ดาวนิ่ง (เบลลามี่ น.66), เดิร์ก เคาท์, แอนดี้ คาร์โรลล์, หลุยส์ ซัวเรส สำรองที่ไม่ได้ลงสนาม : เคร็ก เบลลามี่, จอห์น ฟลานาแกน, โดนี่, เจย์ สเปียริ่ง, เซบาสเตียน โคอาเตส http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=486783&sid=16bba39c5ca00badae7428380a262bcd

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น