เอซี มิลานต้องขอบคุณเควิน พริ๊นซ์ บัวเต็งเป็นการใหญ่เมื่อตามหลังเลชเช่อยู่สามลูกในครึ่งแรกแต่พอมิดฟิลด์กา น่าลงมาเล่นแค่ 18 นาทีก็ซัดแฮตทริคได้สำเร็จก่อนที่มาริโอ เยเปสมาโขกประตูชัยท้ายเกมให้ทีมพลิกแซงเอาชนะ 4-3 ไต่ขึ้นไปอยู่ที่ 5 ของตารางแล้ว ...
เซเรีย อา
วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2554
เลชเช่ 3 : 4 เอซี มิลาน
สนาม : สตาดิโอ โคมูนาเล่ เวีย เดล มาเร่
ประตู : 1-0 กุยเยร์โม่ จาโคมัซซี่ น.4, 2-0 มัสซิโม่ อ๊อดโด้ (จุดโทษ น.30), 3-0 คาร์ลอส กรอสส์มุลเลอร์ น.37, 3-1 เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง น.49, 3-2 เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง น.55, 3-3 เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง น.63, 3-4 มาริโอ เยเปส น.83
เลชเช่ชนะมาแค่หนเดียวเท่านั้นตลอดการลงสนาม 7 นัดนับตั้งแต่เริ่มต้นซีซั่นเป็นต้นมา (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 5) แถมฟอร์มในรังก็จัดว่าย่ำแย่ไม่ทิ้งกันเพราะว่าแพ้มา 3 เกมรวดในลีกฤดูกาลนี้
เอซี มิลานทำผลงานในระยะหลังได้อย่างร้อนแรงเมื่อคว้าชัยมาได้ถึง 4 จาก 5 นัดที่ผ่านมา (ชนะ 4 แพ้ 1) โดยเกมที่พลาดไปเป็นฝีมือของจ่าฝูงอย่างยูเวนตุส
เกมนี้จึงเป็นการเจอกันระหว่างทีมที่ยังไม่ชนะใครในถิ่นตัวเองเลยนับแต่เปิด ฤดูกาลกับทีมที่ยังไม่ชนะใครเลยเช่นกันเมื่อออกมาเล่นนอกบ้าน
ครึ่งแรก
เริ่มเกมมานาทีเดียวเลชเช่ได้ทักทายมิลานก่อนเมื่อสตรัสเซอร์ห้องเครื่องดาวรุ่งจัดการซัดจากนอกกรอบเขตโทษแต่บอลหลุดเสาซ้ายออกไป
อีกสามนาทีถัดมาเจ้าบ้านมาได้ฟรีคิกระยะอันตรายแล้วเป็นกรอสส์มุลเลอร์ที่ บรรจงเปิดบอลไปให้จาโคมัซซี่เทคตัวขึ้นโขกตุงตาข่ายให้เลชเช่นำ 1-0
นาที 11 จาโคมัซซี่ไหลบอลออกขวาให้โอโบโด้ได้วางเท้ายิงในกรอบเขตโทษทว่าอับเบียยัง ยอดเยี่ยมเมื่อพุ่งเซฟออกหลังได้ทันเลยเสียเป็นแค่ลูกเตะมุม
เกมของมิลานยังไม่ดีขึ้นแถมในนาที 28 พวกเขาก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากจากจังหวะที่กวาดราโด้เปิดบอลเข้า ไปในเขตโทษแล้วอับเบียติดีดตัวขึ้นรับบอลแต่ดันทำกระฉอกเลยทำให้บอลหลุดไป เข้าทางคอร์เวียแล้วนายด่าน"รอสโซเนรี่"ก็ตามไปรวบขาจนเสียจุดโทษ
แล้วก็เป็นอ๊อดโด้อดีตผู้เล่นของ"ปีศาจแดง-ดำ"เองที่ก้าวเข้ามารับหน้าที่ สังหารซึ่งก็ไม่พลาดเมื่อเลือกซัดไปทางมุมบนซ้ายสุดวิสัยที่อับเบียติจะเซฟ ได้ สกอร์เลยกลายเป็นเลชเช่นำ 2-0
อย่างไรก็ตามแชมป์สคูเด็ตโต้ฤดูกาลก่อนก็ไม่ยอมแพ้ นาที 34 พวกเขามีโอกาสบ้างจากจังหวะยิงไกลของโนเชริโน่ที่เล่นงานจนเบนาสซี่ต้องออก แรงพุ่งปัดออกหลังประตู
จังหวะเตะมุมถัดมาทางเตรกวาติสต้ามากเทคนิคอย่างคาสซาโน่ก็ครอสบอลเข้าไปให้เยเปสโหม่งหลุดกรอบประตูไปแบบได้ลุ้นเลยทีเดียว
แต่แล้ว"รอสโซเนรี่"ก็มาพลาดท่าอย่างน่าเขกกระโหลกเมื่อความผิดพลาดในการ เคลียร์บอลของแนวรับตัวเองได้เปิดโอกาสให้กอสมุลเลอร์ได้เข้าไปล่อเป้าอับ เบียติก่อนกระหน่ำเบียดเสาซ้ายเข้าประตูไปให้เจ้าบ้านนำห่างเมื่อจบครึ่งแรก 3-0
ครึ่งหลัง
เข้าสู่ครึ่งหลัง"ปีศาจแดง-ดำ"ตัดสินใจปรับเกมด้วยการส่งพริ๊นซ์ บัวเต็งกับอาควิลานี่ลงมาเล่นแทนอัมโบรซินี่และโรบินโญ่
ผ่านไปเพียงนาทีเดียวคาสซาโน่ก็ผ่านบอลมาให้บัวเต็งได้จังหวะวางเท้าวอ ลเล่ย์เต็มข้อจากนอกเขตโทษร้อนถึงเบนาสซี่ต้องดีดตัวบินปัดข้ามคานออกไป อย่างใจระทึก
นาที 48 คาสซาโน่ที่ครองบอลอยู่หน้าเขตโทษก็แทงบอลทะลุช่องมาให้บัวเต็งทางด้านซ้าย ซึ่งแข้งกาน่าก็ยิงสับไกยิงทันทีบอลพุ่งแฉลบกองหลังเจ้าบ้านถากเสาขวาออกไป
จาก จังหวะการเล่นลูกเตะมุมในนาทีถัดมาบอลมาอยู่ที่เท้าของอาควิลานี่ทางสุดเส้น ด้านขวาก่อนที่อดีตแข้งโรม่ากับลิเวอร์พูลเปิดบอลมาทางเสาไกลให้เพื่อนที่ เพิ่งลงมาด้วยกันอย่างบัวเต็งวางเท้าซ้ายยิงติดไซด์ก้อยเข้าเสียบสามเหลี่ยม บนเสาขวาให้มิลานตีไข่แตกได้สำเร็จ
ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อในนาที 55 มิลานที่กำลังคึกหลังได้ประตูไล่คืนขึ้นมาเร็วก็มาพังลูกที่สองได้อีกเมื่อ คาสซาโน่หาทางลากบอลลุยเข้าทางด้านซ้ายของเขตโทษไม่ได้เลยผ่านบอลคืนกลับ หลังมาให้ยิงติดไซด์ก้อยด้วยเท้าขวาส่งบอลผ่านมือเบนาสซี่เข้าไปตุงตาข่าย อย่างสุดมันส์
คนมันจะเป็นพระเอกในเกมนี้เอาช้างกี่เชือกก็มาฉุดก็ไม่อยู่เมื่อในนาที 63 ทีมเยือนมาได้ลูกฟรีคิกบริเวณหน้าเขตโทษเยื้องไปทางซ้ายแล้วบอลก็ถูกเปิดไป ทางด้านขวาให้บัวเต็งโขกชงกลับมาให้อบาเต้วิ่งเข้ายิงติดบล็อกแล้วบอลมาเข้า ทางอดีตมิดฟิลด์สเปอร์สได้ซ้ำอีกครั้งบอลพุ่งเบียดเสาแรกเข้าประตูไปชนิดเบ เนาสซี่พยายามต้านแล้วก็เอาไม่อยู่ ทำให้มิลานตามตีเสมอได้สำเร็จ
นาที 69 มิลานเล่นบอลยาวไปหน้าประตูเลชเช่แล้วเป็นอิบราฮิโมวิชที่ใช้ความสูงใหญ่โขก บอลคืนกลับหลังมาให้โนเชริโน่วิ่งเข้ามากดเต็มข้อเหินข้ามคาน
อีกสามนาทีถัดมามิลานน่าได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆเมื่ออาควิลานี่แทงบอลจากหน้า เขตโทษไปทางด้านซ้ายให้คาสซาโน่ที่ยืนว่างได้มีโอกาสยิงแต่เขาเลือกจ่ายยัด เข้าในไปให้อิบราฮิโมวิชเข้าชาร์จแต่ไปไม่ถึงเพราะถูกแนวรับเลชเช่สองคนพุ่ง สไลด์แบบแซนด์วิชอยู่นั้นเอง
แต่ความพยายามของมิลานก็มาประสบผลในนาที 83 จากการเล่นลูกเตะมุมที่บอลเปิดมาโดแนวรับเลชเช่สกัดออกไปหน้าเขตโทษแต่ดัน เข้าทางทีมเยือนอีกสุดท้ายบอลถูกวางมาให้คาสซาโน่ทางด้านซ้ายซึ่งเขาก็ครอสก ลับไปหน้าประตูที่เสาไกลให้เยเปสโถมเข้าโหม่งเอาประตูได้สำเร็จ
ทำให้"ปีศาจแดง-ดำ"พลิกกลับมาแซงเอาชนะเจ้าบ้านได้อย่างเหลือเชื่อ 4-3 ขึ้นไปอยู่ที่ 5 ของตารางและยังเป็นการเก็บสามคะแนนนอกบ้านในซีซั่นนี้ได้เป็นครั้งแรกอีก ด้วย
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เลชเช่ : มัสซิมิเลียโน่ เบนาสซี่ , มัสซิโม่ อ๊อดโด้ , เนน๊าด โทโมวิช, อันเดรีย เอสโปซิโต้ , ดาเมล เมสบาห์, คริสเตียน โอโบโด้, ร็อดนี่ย์ สตรัสเซอร์, กุยเยร์โม่ จาโคมัซซี่ , ฮวน กวาดราโด้ (เอล โอเฟเร่ น.81), คาร์ลอส กรอสส์มุลเลอร์ (อันเดรีย แบร์โตลาสซี่ น.59), ดานิเอเล่ คอร์เวีย (มานูเอล จิอันโดนาโต้ น.73)
อิล เทคนิโก้ : ยูเซบิโอ ดิ ฟรานเชสโก้
เอซี มิลาน : คริสเตียน อับเบียติ, มาริโอ เยเปส , อเลสซานโดร เนสต้า, อิ๊กนาซิโอ อบาเต้, ลูก้า อันโตนินี่, อันโตนิโอ โนเชริโน่, มาร์ค ฟาน บอมเมล, มัสซิโม่ อัมโบรซินี่ (อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ น.45 ), โรบินโญ่ (เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง น.45 ), ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, อันโตนิโอ คาสซาโน่ (สเตฟาน เอล ชาราวี่ น.89)
อิล เทคนิโก้ : มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น