© Reuters
“สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เก็บชัยชนะสุดมันเหนือ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ได้ในเกมที่เปิดฉากแลกกันตลอดทั้งเกมและมีโอกาสลุ้นประตูทุกช่วงของเกม ก่อนที่จะมายิงขาดในช่วงท้ายเกมด้วยสกอร์ 3-0
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (3 ธ.ค. 54)
นิวคาสเซิล 0-3 เชลซี
สนาม : เซนต์ เจมส์ ปาร์ค
ประตู :
0-1 ดร็อกบา 38
0-2 กาลู 89
0-3 สเตอร์ริดจ์ 90
“สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ทีมอันดับ 4 ต้อนรับการมาเยือนของทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี อันดับ 5 โดยเกมนี้เจ้าบ้านขาดตัวหลักอย่าง โจนาส กูเตียร์เรซ ที่ติดโทษแบนทำให้เป็นปีเตอร์ โลเวนครานด์ส ที่ลงสนามแทน ขณะที่ทีมเยือนดร็อป เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็นตัวสำรองโดยมี ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา จับคู่ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ในแดนหน้า
ก่อนเกมมีการยืนไว้อาลัยให้แก่ แกรี่ สปีด ผู้จัดการทีมชาติเวลส์ ซึ่งเคยเป็นนักเตะของทีมนิวคาสเซิลด้วย ขณะที่เกมในสนามเริ่มต้นได้ไม่นาน เชลซี ก็เกือบงานเข้าเมื่อ ดาวิด ลุยซ์ ไปทำฟาวล์ใส่ เดมบ้า บา ในจังหวะกำลังจะหลุดเดี่ยวก่อนเข้าเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินใจดียังให้แค่ใบเหลืองทั้งที่ควรจะเป็นใบแดง และไรอัน เทย์เลอร์ ก็ยิงลูกฟรีคิกไปติดกำแพง
จากนั้น เชลซี มีโอกาสจะได้ประตูขึ้นนำก่อน เมื่อได้จุดโทษในนาทีที่ 14 จากจังหวะที่ สเตอร์ริดจ์ ลุยเข้าเขตโทษก่อนโดน โยฮัน คาบาย ดักร่วง ผู้ตัดสินให้เป็นจุดโทษ แต่แฟรงค์ แลมพาร์ด กลับยิงไปติดเซฟของ ทิม ครูล ที่พุ่งไปปัดบอลก่อนที่ลูกจะชนเสาออกไป ทำให้ทีมเยือนพลาดโอกาสไป
ต่อมาทีมเยือนบุกมาได้น่ากลัวอีกหน และเป็น ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ที่ได้โอกาสซัดเรียดในเขตโทษแต่บอลพุ่งไปชนเสาเต็มๆ จากนั้น สเตอร์ริดจ์ ยังมีจังหวะได้สับไกระยะไกลบอลก็ถากเสาออกไปอีกเช่นกัน
สเตอร์ริดจ์ ยังสร้างปัญหาตลอด คราวนี้ได้บอลจากสุดสวยจาก ฆวน มาตา แต่จังหวะจบสกอร์ไปติดเซฟของ ครูล ที่ยังเหนียวหนึบ ก่อนที่ นิวคาสเซิล จะได้โอกาสแรกที่ชัดเจนโดยเป็น โลเวนครานด์ส ที่เปิดมาให้ บา ได้กระโดดดีดบอลเหน่งๆแต่ว่า ปีเตอร์ เช็ก ก็โชว์เซฟบ้างด้วยการปัดข้ามคานออกไป
นิวคาสเซิล ต้องเสียฟาบริซิโอ โคล็อคชินี่ ที่บาดเจ็บต้องให้ เจมส์ เพิร์ช ลงสนามมาแทน แต่ทีมก็เกือบจะได้ประตูเหมือนกันโดย แดนนี่ กัธรี่ เปิดบอลเข้ามาถึง บา ขึ้นโขกเหนือลุยซ์ แต่ลูกเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว
มาถึงนาทีที่ 38 เชลซี ก็เป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำ จากลูกทุ่ม แอชลี่ย์ โคล ทุ่มาให้ มาตา ก่อนที่ปีกสเปน จะเปิดน้ำหนักพอเหมาะให้ ดร็อกบา โขกเต็มหัวเข้าไปตุงตาข่าย ทีมเยือนขึ้นนำไปก่อน 1-0
จากนั้นเชลซี ยังน่าจะได้ประตูอีกด้วยเมื่อ แลมพาร์ด เปิดบอลสุดงามให้ สเตอร์ริดจ์ หลุดไปดวลกับ ครูล แต่ก็เป็นอีกครั้งที่ยิงไม่ผ่าน ก่อนที่เกมจะจบลงด้วยสกอร์นำอยู่ของทีมเยือนในครึ่งแรกที่สุดมัน
ครึ่งหลัง อลัน พาร์ดิว ถอดฮาเต็ม เบน อาร์กฟา ออกและส่ง โชล่า อเมโอบี้ ลงมาเติมแดนหน้าอีกคน ขณะที่รูปเกมยังเปิดแลกกันสุุดมันเหมือนเดิม โดยเชลซี น่าจะได้ประตูหนีห่างไปเมื่อ ดร็อกบา ได้บอลเปิดมาก่อนพักอกลงได้สวยแล้วซัดจากระยะ 6 หลาแต่บอลถากเสาออกไป
ก่อนที่แฟนบอลสองฝ่ายแทบหยุดหายใจเมื่อต่างฝ่ายต่างเกือบได้ประตูทั้งคู่ใน จังหวะต่อกัน โดย นิวคาสเซิล ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะรุกโดยเปิดบอลเข้าเขตโทษ ดร็อกบา ที่ลงไปช่วยโขกสกัดแต่บอลไปชนคานตัวเองอย่างจัง ก่อนที่ เชลซี จะโต้กลับเร็วทันทีถึงหน้าประตูเลย และเป็น สเตอร์ริดจ์ ที่ได้หลุดไปก่อนเปิดต่อให้ ราอูล เมยเรเลส แต่ว่า ครูล ก็ออกมาช่วยเซฟได้อย่างสุดยอด
เกมยังเปิดแลกกันตลอด โดย เชลซี รอดตัวบ้างเมื่อ บา เปิดบอลเข้ากลาง เช็ก ปัดบอลแต่ไม่พ้นลูกมาถึง แซมมี่ อเมโอบี้ ตัวสำรองอีกคนที่เพิ่งลงสนามมาได้วอลเล่ย์แต่ว่าโดน จอห์น เทอร์รี่ สกัดได้จากเส้นประตูหวุดหวิด ก่อนที่ เชลซี จะส่งตอร์เรส ลงมาแทนดร็อกบา ในช่วงท้ายเกม
นาทีที่ 80 นิวคาสเซิล เกือบตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะที่ อเมโอบี้ ได้บอลตรงหน้าเขตโทษก่อนตัดสินใจซัดเต็มข้อทันที บอลพุ่งเป็นจรวดก่อนไปชนคานดังสนั่นทำเอาเจ้าตัวถึงกับเซ็งเพราะซัดได้สุด สวยแล้ว
ก่อนหมดเวลา 5 นาที แดนนี่ กัธรี่ ขอลองส่องไกลจากระยะร่วม 35 หลา บอลพุ่งข้ามคานออกไปแต่ถือว่าได้เสียว ก่อนนิวคาสเซิล จะพยายามบุกต่อแต่กลับมาโดน เชลซี ยิงฝังก่อนหมดเวลานาทีเดียว โดยเป็นจังหวะที่ ตอร์เรส ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษไปและได้ยิงแต่ติดเซฟของ ครูล บอลกระเด้งเข้าทางตอร์เรสอีกที คราวนี้เกี่ยวบอลก่อนไหลให้ กาลู ที่เติมมายิงเน้นๆอีกครั้ง ครูล ปัดได้แต่ไม่พ้นบอลปลิ้นเข้าประตูไป
หลังจากนั้นเกมยังคงเปิดแลกกันตลอด และเชลซี ยังมาได้ประตูฝังอีกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจาก สเตอร์ริดจ์ ที่ยิงได้สำเร็จด้วยการลากตัดจากขวาเข้าในก่อนซัดเรียดเข้าไปอย่างสวยงาม ปิดฉากชัยชนะสุดมันของ เชลซี 3-0 ขยับไปอยู่อันดับ 3 ชั่วคราว
http://football.impaqmsn.com/content.aspx?id=73835&ch=253
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น