ยินดีต้อนรับ

วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสโมสร

1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน

2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา

ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ

3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น

4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน



วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อเล็กซิส ซานเชซ ว่าที่แข้งเบอร์ 1 โลก


Report by : Siamsport Team News ( ร็อกโคราช )

สำหรับ อเล็กซิส ซานเชซ แล้ว ชื่อนี้ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบหลายรอบ.... ณ ใจกลางของเมืองแห่งอุตสาหกรรมทองแดงของ ชิลี, อูดิเนเซ่ มองปราดเดียวก็รู้ว่า พวกเขาขุดเจอทองคำ

"เราได้ยินเรื่องของวัยรุ่นชื่อ อเล็กซิส" ฟาบริซิโอ ลารินี่ ผู้อำนวยการกีฬาของ อูดิเนเซ่ ย้อนอดีต "เรามีศูนย์ที่จะรับเทปเกมฟุตบอลลีกทั่วโลกมาดู และเขาโดดเด่นขึ้นมา เราส่งแมวมอง 2 คนไปดูเขาเล่นแบบสดๆ และพวกเขายืนยืนสิ่งที่เราได้ยิน สำหรับนักเตะแบบนี้ คุณมองเห็นสัญญาณบ่งชี้ที่บอกว่าเขาเป็นนักเตะที่ดีอย่างไร และกับเขา เรารู้ทันที"

คำพูดของ ลารินี่ ได้รับการตัดสินแล้วในซัมเมอร์นี้ เมื่อทีมดังๆ มากมายตกเป็นข่าวล่าตัวเขา หลังจากมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วย อูดิเนเซ่ คว้าโควตาไปเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ เป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์

อูดิเนเซ่ ยืนยันด้วยตัวเองแล้วว่า พวกเขาคุยกับ แมนเชสเตอร์ ยูนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อินเตอร์ มิลาน, ยูเวนตุส และ บาร์เซโลน่า เกี่ยวกับการซื้อขายนักเตะ ที่น่าจะมีค่าตัวไม่ต่ำกว่า 32 ล้านปอนด์ และได้รับการอุ้มชูจาก เคลาดิโอ บอร์กี้ โค้ชทีมชาติบ้านเกิด ที่ยกย่อง อเล็กซิส ว่า พลัง, ฝีเท้ารวดเร็วปานจรวด, ความสมดุล และ การเลี้ยงบอล ทำให้เขาจะเก่งกว่า ลีโอเนล เมสซี่

เนลสัน อคอสต้า อดีตโค้ชทีมชาติชิลี ผู้เคยอบรมสั่งสอน อเล็กซิส ตอนอายุ 16 และดึงมาเล่นทีมชุดใหญ่ของสโมสรโคเบรลัว ที่มีทำเลอยู่ในเมืองแห่งอุตสาหกรรมแร่ทองแดงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่แปลกใจกับปัจจุบันของนักเตะ "ผมไม่เซอร์ไพรส์เลย" อคอสต้า กล่าวว่า "ผมรู้ตั้งแต่แรกที่เห็นเขาเลยว่า เขาไม่มีลิมิต เขามีทุกอย่าง สำหรับนักเตะวัยรุ่นแล้ว โดยปกติคุณมักเห็นว่ามีบางอย่างหายไป อาจเป็นทักษะ, วิสัยทัศน์ หรือ ความสามารถในการเอาชนะคู่แข่ง แต่นั่นไม่ใช่กรณีของ อเล็กซิส ซึ่งหายากมากๆ"

ที่หายากมากกว่านั้นอีกก็คือ ความเร็วในการพัฒนาของเขา ก่อนอยู่ในการดูแลของ เนลสัน อคอสต้า นั้น อเล็กซิส ถูกพบขณะทดสอบฝีเท้าโดย โรเบร์โต้ ซปิคโต้ ซึ่งตอนนั้นดูแลทีมเยาวชนของโคเบรลัว สมัยเขาอายุ 14 ปี "ผู้จัดการทั่วไปของสโมสรบอกผมว่า เขามีนักเตะชั้นยอด ตอนนั้นเขาเล่นมิดฟิลด์ตัวรุก เขาก็ดูดีอย่างที่เป็น ผมบอกว่าเราต้องดูแลเขาดีๆ" แต่ สปิคโต้ เสีย อเล็กซิส อย่างรวดเร็ว เพราะ อคอสต้า ดึงเขามาเล่นทีมชุดใหญ่หลังเห็นฟอร์มในเกมระดับเยาวชน

"แค่การซ้อมช่วงแรกๆ เขาก็สร้างความประทับใจได้มากแล้ว" อคอสต้า กล่าว "เขาอายุ 16 ตอนเราให้เขาเล่นสนามครั้งแรก" แน่นอนว่า ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็ว นี่ไม่ใช่นักเตะที่พร้อมรอคอย โดย ไฮเม่ กอร์เตส นักข่าวของ "เอล แมร์กูริโอ เด ดาลาม่า" บอกว่า "เขาซ้อมดี และเล่นนัดแรกจากการเป็นตัวสำรองเกมกับ เดปอร์เตส เตมูโก้" และ กอร์เตส นี่เอง ที่เป็นคนตั้งชื่อเล่นให้ อเล็กซิส ว่า "เอล นิโน่ มาราบีย่า" (El Nino Maravilla) หรือ "Boy Wonder"

"มันเป็นเกมที่ยาก และ ซานเชซ ทำทางไปสู่ประตูชัย แฟนบอลในสนามลุกยืนปรบมือให้เขา ตอนนั้นแหละที่ผมตั้งชื่อเล่นให้เขา เขาลงสนาม หวือหวากับลีลา และลูกเล่นต่างๆ แบบที่เขาทำทุกวันตอนซ้อม โคเบรลัว มียอดนักเตะแล้ว เขาเป็นเด็กอยู่เลย เพิ่งอายุ 16 ตัวเป็นเด็ก ใจก็เป็นเด็ก เขาเลยกลายเป็น "El Nino Maravilla" นั่นเอง"

แต่ ซานเชซ ไม่พอเท่านี้ เขาเล่น โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส บอลถ้วยใหญ่สุดของอเมริกาใต้ ครั้งแรกในอีก 1 เดือนถัดมา และเขาเป็นนักเตะเด็กสุดในประวัติศาสตร์ที่เล่นรายการนี้ เขาเรียกจุดโทษให้ทีมเอาชนะ ออนเซ่ กัลดาส ทีมยักษ์ใหญ่ของ โคลอมเบีย และเป็นอีกครั้งกับการลุกยืนปรบมือ "เขามันตัวอันตรายเลย" อคอสต้า กล่าว "นี่แหละสิ่งพิเศษของเขา เขาเล่นงานคุณแข่งให้เจ็บปวด"

และก็อย่างที่บอก เทปเกมต่างๆ ถูกส่งไปศูนย์ประเมินนักเตะของ อูดิเนเซ่ ที่ทำหน้าที่เสาะหาเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไนมานานกว่า 10 ปี ... และขณะที่มหาอำนาจลูกหนังทั้งหลายกำลังไล่ล่าเขาอยู่ ย้อนไปวันนั้น อูดิเนเซ่ ควัก 2 ล้านปอนด์ ซื้อ อเล็กซิส มาร่วมทีม หลังจากเล่นอาชีพครั้งแรกไม่ถึง 6 เดือน

ที่ อิตาลี กับ อูดิเนเซ่ นี่เอง ที่นิยายเลื่องชื่อของเขาเริ่มถูกรบกวน สืบเนื่องจากมาตรฐานที่เขาตั้งเอาไว้ซะสูงตอนแรก และเขาเป็นเพียงเด็กอายุ 16 ปีที่เล่นใน กัลโช่ เซเรีย อา โดย ลารินี่ กล่าวถึงการดูแล เพชรเม็ดนี้ ว่า "คุณต้องปล่อยให้นักเตะได้พัฒนาในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงไม่ส่งเขาลงเล่นโดยทันที แทนที่จะทำแบบนั้น เราส่งเขาไปเล่นกับ โคโล โคโล่ ที่ ชิลี 1 ปี ต่อด้วยกับ ริเวอร์เพลท ที่ อาร์เจนตินา เราจะดึงเขากลับมาก็ตอนเขาพร้อมแล้วเท่านั้น นี่คือเรื่องสำคัญถ้าคุณจะให้นักเตะพัฒนาได้เต็มศักยภาพ"

แน่นอน เขาคือสุดยอดความคุ้มค่าแห่งการรอคอย ปีที่แล้วคือปีที่ดีที่สุดของ อเล็กซิส ที่รวมถึงการยิง ปาแลร์โม่ คนเดียว 4 ลูก หนึ่งในนั้นเป็นการโซโล่เดี่ยวมาระเบิดประตู แต่ความจริงเขาเริ่มฉายแววตั้งแต่ปี 2008 แล้ว เหล่าคนที่รู้จักเขาดีที่สุดยืนยันเป็นเสียงเดียวว่า เขามีแต่จะเก่งขึ้นเท่านั้น และนอกเหนือจากลูกเล่นตามสไตล์เด็กอเมริกาใต้แล้ว เขายังพัฒนาให้มันอันตราย และทรงอานุภาพด้วย

"ผมจำได้ว่าเขาพยายามเลียนแบบลูกเล่นของ โรนัลดินโญ่ ที่เราเรียกว่า "เอล ลาติโก้" เหยี่ยวข่าวกอร์เตส กล่าว หรือจะพูดให้เข้าใจเป็นภาษาปะกิตก็คือ การควบคุมบอลไปใน 2 ทิศทางด้วยเท้าข้างเดียว "เขาจะลองลูกเล่นนี้ทุกครั้งเวลาซ้อม สุดท้ายเขาก็เป็นเซียน ตอนนี้เขาทำมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาชอบสลับเท้า และเอาชนะคู่แข่ง มันเป็นสิ่งที่เขาได้มาจากบอลข้างถนนใน โตโกปีย่า มันอยู่ในสายเลือด เขาทำมันได้อย่างง่ายๆ เลย"

อเล็กซิส ซานเชซ เป็นหนึ่งในนักเตะที่ความสุดยอดของเขาดูเหมือนจะได้มาง่ายๆ และบุคคลเหล่านี้ อคอสต้า, กอร์เตส, สปิคโต้ ที่เห็นเขาตั้งแต่สมัยเป็นฝุ่น เชื่อจริงๆ ว่าเขาจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลก และที่เมืองกาลาม่า, ชิลี พวกเขารู้ว่าพื้นที่ตรงไหนมีค่า พวกเขารู้ว่าตอนไหนที่เสียงวูบวาบคือ ... ทองคำ

ขอบคุณ Webmaster
http://www.siamsport.co.th/Column/110625_031.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น