ยินดีต้อนรับ

วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสโมสร

1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน

2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา

ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ

3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น

4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน



วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

ซิตี้จ๋อยไล่เจ๊านาโปลี 1-1 ประเดิมชปล.

© AP Images ทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำได้ดีที่สุดในการประเดิมสนามยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการไล่ตามตีเสมอ “อัซซูร่า” นาโปลี ในเกมที่ผลัดกันรุกรับอย่างตื่นเต้นด้วยสกอร์ 1-1 ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม (14 ก.ย.54) แมนฯ ซิตี้ 1-1 นาโปลี สนาม : ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ ประตู : 0-1 คาวานี่ 69 1-1 โคลารอฟ 74 “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงสนามเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรก โดยในอดีตเคยลงแข่งรายการใหญ่ที่สุดของยุโรปในชื่อเดิมยูโรเปี้ยน คัพ ตั้งแต่ปี 1968 รับมือ “อัสซูร่า” นาโปลี ทีมแกร่งจากอิตาลี โดยเกมนี้โรแบรโ์ต้ มันชินี่ วาง 4 เทพ “กุน” เซร์จิโอ อเกวโร่, เอดิน เชโก้, ดาวิด ซิลบา และซาเมียร์ นาสรี่ ลงสนามพร้อมกันหมด และเริ่มเกมมาได้ไม่นาน แมนฯ ซิตี้ ที่บุกถล่มใส่ตั้งแต่ต้นเกมก็ได้โอกาสยิงทักทายก่อนจากจังหวะเติมมาตวัดยิงหน้าเขตโทษของ นาสรี่ ที่พุ่งเฉี่ยวเสาออกไป ก่อนที่จะเป็นฝ่ายบงการเกมได้หมดในช่วงต้น พลังในแนวรุกของซิตี้ ยังคงน่ากลัว โดยเชโก้ ได้จังหวะพลิกบอลตรงกลางสนามก่อนจะเป็น อเกวโร่ ที่เก็บบอลได้พาบอลขึ้นมาและไหลคืนให้ เชโก้ ที่สปีดเข้าเขตโทษได้สวยก่อนตัดสินใจซัดเข้าข้อด้วยขวาแต่บอลกระดอนพื้นก่อนพุ่งถากเสาไปไม่กี่มิล แต่นาโปลี ก็โชว์ทีเด็ดให้เห็นเหมือนกันในจังหวะเซ็ตบอลขึ้นมาและเป็น กอมปานีย์ ที่เสียหลักพลาดปล่อยให้ เอเซเกวล ลาเวซซี่ แตะบอลได้ก่อนหลุดเข้าเขตโทษแล้วแปบอลติดไซด์โค้งแบบเน้นทิศทางแล้วแต่แม่นเกินชนคานดังสนั่น แมนฯ ซิตี้ พยายามบุกต่อ และมีจังหวะใกล้เคียงอีกครั้งในนาทีที่ 35 จากจังหวะการเปิดของ อเกวโร่ เข้ามาให้ ยาย่า ตูเร่ ที่เติมเข้ามาในเขตโทษวางเท้ายิงเน้นๆแต่บอลไปชนคานดังสนั่นเจ้าบ้านพลาดอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่เกมจะเสมอกัน 0-0 ในครึ่งแรก ครึ่งหลังกลับมาลงสนามใหม่ เกมเปิดแลกกันสนุกและนาโปลี ก็เริ่มทักทายได้น่ากลัววสุดๆจากจังหวะที่ มาเร็ค ฮัมซิก หลุดเข้าไปในเขตโทษและได้ยิงเน้นๆผ่านโจ ฮาร์ท ไปแล้วแต่ยังมี กอมปานีย์ ที่ตามมาช่วยชีวิตทีมสกัดบอลได้จากเส้นประตูแบบหวุดหวิดที่สุด จากนั้นเกมของนาโปลี ค่อยๆดีขึ้นและกลายเป็นเหนือกว่าเจ้าบ้าน บุกขึ้นมาแบบได้ลุ้นตลอด โดยเฉพาะจังหวะที่ คาวานี่ จ่ายต่อให้ฮัมซิค ที่เติมมาทางซ้ายได้บอลในเขตโทษ แต่จังหวะจบสุดท้ายติดบล็อกนิดเดียว เกมโต้กลับของนาโปลี มาแผลงฤทธิ์ในนาทีที่ 69 เมื่อสวนขึ้นมาแบบ 3 ต่อ 2 และเป็นมัจโจ้ ที่เลือกจ่ายให้ คาวานี่ หลุดเข้าไปยิงลอดขาโจ ฮาร์ท เข้าไปอย่างเหนือชั้น ทีมเยือนขึ้นนำไปก่อน 1-0 แมนฯ ซิตี้ เปิดฉากลุยจะเอาคืนทันที และทำได้ใกล้เคียงเมื่อนาสรี่ เติมมาทางซ้ายก่อนจะเปิดเข้ากลางให้ อเกวโร่ เติมมาเข้าฮอสในกรอบ 6 หลาแต่ว่าบอลไปชนคานดังสนั่น แต่จากนั้นทีมก็มาไล่ตีเสมอได้สำเร็จในนาทีที่ 74 เมื่อมาได้ฟรีคิกตรงมุมเขตโทษฝั่งขวา และเป็นอเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ปั่นบอลข้ามกำแพงมุดสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสุดมันแต่หลังยิงเข้าโคลารอฟ ก็โดนเปลี่ยนตัวออกให้กาแอล กลิชี่ ลงมาแทนพร้อมอดัม จอห์นสัน ที่แทนนาสรี่ จอห์นสัน ลงมาไม่นานก็สร้างความป่วนเมื่อกระชากบอลจากขวาตัดเข้าเขตโทษก่อนเปิดมากลางประตู บอลทะลักมาถึงเชโก้ หมุนตัวยิงบอลหลุดเสาออกไป ก่อนที่ทางเจ้าบ้านจะพยายามเพื่อยิงประตูชัยให้ได้ แต่ก็เกือบเสียท่าก่อนหมดเวลา 3 นาทีเมื่อกอมปานีย์ จ่ายคืนหลังไม่ดีเกือบโดนฮัมซิค ฉกไปยิงแต่ฮาร์ท ยังออกมาเตะทิ้งได้ทัน ก่อนที่เกมจะจบลงด้วยการเสมอกันไป 1-1 ในนัดนี้ http://football.impaqmsn.com/content.aspx?id=71391&ch=253

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น