ยินดีต้อนรับ

วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสโมสร

1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน

2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา

ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ

3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น

4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน



วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555

อินทรีปีกหัก!ตราไก่ยังแรงบุกอัดถึงถิ่น 2-1



"อินทรีเหล็ก"เยอรมนีต้องยอมสยบเลยหลังโอลิเวอร์ ฌิรูด์และฟลอร็องต์ มาลูด้าช่วยกันทำคนละประตูให้ฝรั่งเศสบุกมาเอาชนะไปได้ 2-1 ยืดสถิติยังไม่แพ้ใครในทุกรายการออกไปเป็น 18 นัดเข้าไปแล้ว

ฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ

วันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์ 2555

เยอรมนี 1:2 ฝรั่งเศส

ประตู : 0-1 ฌิรูด์ น.21, 0-2 มาลูด้า น.69, 1-2 คาเคา น.90+1

คลิปไฮไลท์ กระชับมิตรทีมชาติ เยอรมัน 1-2 ฝรั่งเศส

ครึ่งแรก

ฝรั่งเศสทักทายก่อน
เริ่มต้นมาเป็นเจ้าบ้านเยอรมนีที่ได้ครองบอลบุกเข้าใส่มากกว่าแต่ก็ยังไม่ได้มีโอกาสจบ ส่วนทางฝรั่งเศสก็มีเกมบุกเป็นช่วงๆและได้ลุ้นก่อนจากลูกเตะมุมเข้ามาแต่รามี่ก็โหม่งหลุดเสาออกไป

เกือบไป!กาบายโหม่งแฉลบวีเซ่ยังเซฟ
"ตราไก่"หวิดได้ประตูขึ้นนำออกไปก่อนเลยในนาทีที่ 15 จากจังหวะเตะมุมอีกแล้วเปิดโดยวัลบูเอน่าเข้ามาที่กลางประตูและเป็นกาบายโหม่งแฉลบเล็กน้อยแต่วีเซ่ยังไวล้มตัวปัดเอาไว้ก่อนจะโดนเคลียร์ตามออกมา

ตราไก่ขอก่อน!ฌิรูด์เบิกร่องลูกแรก
แล้วกลายเป็นทีมเยือนที่ตั้งเกมบุกได้แล้วออกนำไปก่อนจากบอลตวัดจากกลางออกมทางขวาให้กับเดบูชี่ดันขึ้นมาจนถึงเขตโทษก่อนจะเปิดเข้าไปตรงกลางให้ฌิรูด์โผเข้ามาแปสวนตัววีเซ่เข้าประตูไป ฝรั่งเศสออกนำไปก่อน 1-0

โคลเซ่ยิงจ่อๆเจอเซฟ
ผ่านมาครึ่งชั่วโมงเยอรมนีเริ่มได้โอกาสจบใกล้เคียงขึ้นแล้วจากลูกฟรีคิกเปิดเข้าลุ้นในเขตโทษแล้วบอลเลยมาถึงโคลเซ่ที่ได้เอาบอลลงตรงกรอบหกหลาก่อนจะซัดจ่อๆแต่ญอริสยังไวออกมาปิดมุมมิด

เกือบอีกแล้ว!โคลเซ่โหม่งยิงยังชนเสา
จังหวะถัดจากนั้นยังเป็นของ"อินทรีเหล็ก"อยู่ที่ได้ลุ้นอีกแล้วโดยเป็นลูกเตะมุมเข้ามา ญอริสออกมาปัดบอลลอยมาถึงโครสหน้าเขตโทษเก็บแล้วกระชากเปิดไปเสาสองให้กับโคลเซ่โถมมาโหม่งมุมแคบแต่บอลก็ชนเสา

โคลเซ่ยิงอีกยังเจอเซฟ
ช่วงท้ายครึ่ง"อินทรีเหล็ก"ได้ลุ้นประตูอีกครั้งนึงจากจังหวะสวนกลับทางขวาโอซิลพาบอลขึ้นมาเองก่อนจะทำชิ่งหนึ่งพาบอลทะลุเข้าถึงขตโทษก่อนจะเปิดกลับมาหน้าประตูให้โคลเซ่ทุ่มสุดตัวโผล่มายิงก่อนจะโดนปะทะเจ็บไปแต่ลูกยิงก็ยังเจอญอริสเซฟไว้อยู่

ครึ่งหลัง

เกมยังเปิดแลกกันอยู่
เข้าครึ่งหลังรูปเกมยังเหมือนเดิมทั้งสองฝ่ายผลัดกันทำเกมบุกโดยได้โอกาสลองกันหลายทีแต่เป็น"ตราไก่"ที่มีลุ้นมากกว่าจากลูกยิงไกลระยะ 30 หลาของดูเบชี่แต่ก็ยังเจอวีเซ่ปัดเอาไว้

รอยส์ส่องบ้างเจอเซฟ
ทาง"อินทรีเหล็ก"ก็มีโอกาสยิงลุ้นตีเสมอเช่นกันจากจังหวะที่พาบอลมาป้วนเปี้ยนทางหน้าเขตโทษได้หลายครั้งก่อนที่บอลจะหลุดมาถึงรอยส์ทางซ้ายได้ลองซัดแบบไม่ต้องจับแต่ญอริสยังเซฟไว้ได้

ยิงแล้วยิงอีก!โอซิลส่องไกลยังไม่ได้
นาที 60 เกมยังเปิดแลกกันต่อไปคราวนี้เป็นคิวของโอซิลที่ได้ลองส่องบ้างจากการจ่ายมาให้ของโครสก่อนมิดฟิลด์มาดริดจะจับบอลก่อนทีนึงจนมีช่องให้ยิงไกลก่อนจะลองส่องแต่ญอริสยังเซฟเช่นเคย

เกือบสอง!วัลบูเอน่าชาร์จหลุดเสานิดเดียว
กลับกัน"ตราไก่"ก็น่าได้ประตูที่สองเหมือนกันจากจังหวะที่วีเซ่เตะเปิดเกมมาให้กับบัวเต็งแต่เจ้าตัวจับบอลแล้วเจอมาลูด้ามาตัดบอลไปได้ก่อนจะเปิดไปในเขตโทษบอลหลุดไปถึงวัลบูเอน่าที่โผล่มาเข้าชาร์จแบบโล่งๆแต่บอลถามเสานิดเดียว

จนได้!ตราไก่เฮฮามาลูด้าบวกลูกสอง
แล้วนาที 69 "ตราไก่"ก็ได้ลูกสองสมใจจากแม็กเซสที่จ่ายขึ้นหน้ามาให้กับอมาลฟิตาโน่แทงทะลุช่องให้กับเดบูชี่เติมเกมขึ้นมาเปิดเข้ากลางอีกครั้ง บอลหลุดมาถึงเสาสองมีฌิรูด์กับมาลูด้าโถมมาไม่โดนแต่บอลยังไม่ไปไหนอยู่หน้าปากประตูให้มาลูด้าตวัดยิงซ้ำ วีเซ่ปัดได้แต่ก็ไม่พ้นบอลลอยเข้าประตูอยู่ดี ฝรั่งเศสนำห่างเป็น 2-0

ซาฮายิงเข้าแต่ล้ำหน้า
เข้าช่วง 10 นาทีสุดท้ายฝรั่งเศสเกือบได้ประตูอีกครั้งนึงจากซาฮาที่ได้บอลแทงทะลุช่องหลุดเข้าไปยิงผ่านมือวีเซ่แล้วแต่ก็โดนจับเป็นลูกล้ำหน้าไปซะก่อน

อินทรีเหล็กไล่ตีตื้่นทดเจ็บ
ทดเจ็บ"อินทรีเหล็ก"ไล่ตีตื่นขึ้นมาได้แล้วโดยบัวเต็งจ่ายจากแดนตัวเองขึ้นหน้ามาถึงมุลเลอร์ทำชิ่งหนึ่งสองหลุดขึ้นมาจนถึงเขตโทษทางขวาก่อนจะเปิดไปหน้าประตูบอลผ่านลึกถึงเสาสองให้คาเคาเข้ามาแปโล่งๆ เยอรมนีไล่มาเป็น 1-2

จบเกมเยอรมนีไล่มาไม่ทันพ่ายให้กับฝรั่งเศสไป 2-1 "ตราไก่"ยังคงรักษาสถิติไม่แพ้ใครในทุกรายการเอาไว้ได้โดยพวกเขาไม่แพ้มาตั้งแต่เกมกับบอสเนียเมื่อวันที่ 7 กันยายนปี 2010

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เยอรมนี : ทิม วีเซ่, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ (โฮเวเดส น.45), แมตส์ ฮัมเมลส์, เดนนิส อาโอโก้, เยโรม บัวเต็ง, ซามี่ เคห์ดิร่า (เบนเดอร์ น.70), โทนี่ โครส, อันเดร ชูร์เล่ (มุลเลอร์ น.44), มาร์โก้ รอยส์ (คาเคา น.71), เมซุท โอซิล, มิโรสลาฟ โคลเซ่ (โกเมซ น.45)

ฝรั่งเศส : ฮูโก้ ญอริส, ฟิลิปป์ แม็กเซส, อาดิล รามี่, เอริค อบิดัล, มาติเยอ เดบูชี่, โยฮัน กาบาย (ดิยาร์ร่า น.62), ยานน์ เอ็มวีล่า (มาลูด้า น.62), ฟรองค์ ริเบรี่ (เมเนซ น.45), มาติเยอ วัลบูเอน่า (อมาลฟิตาโน่ น.68), โอลิเวอร์ ฌิรูด์ (ซาฮา น.74), ซามีร์ นาสรี่
http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=560990&sid=2ed7ddca4d1569d9b23c076fde556de9

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น