ยินดีต้อนรับ

วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสโมสร

1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน

2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา

ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ

3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น

4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน



วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สิงห์ลุ้นเหนื่อย!ห้างยาลอยลำไล่พลิกเอาชนะท้ายเกม 2-1



งานนี้ต้องไปวัดกันในบิ๊กแมตช์เกมกับบาเลนเซียซะแล้ว สำหรับเชลซีที่อุตส่าบุกไปนำเลเวอร์คูเซ่นก่อน แต่สุดท้ายมาโดนพลิกแซงในช่วงท้ายเกม จบลงที่ชัยชนะของเจ้าบ้าน 2-1 ทำให้ "ห้างขายยา" ทะลุเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปแล้วในกลุ่มนี้

แชมป์เปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม อี

วันพุธที่ 23 พฤศจิกายน 2554

สนาม : เบย์ อารีน่า

ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 2 : 1 เชลซี

ประตู : 0-1 ดร็อกบา น.48, 1-1 เดร์ดิย็อค น.73, 2-1 เฟรดริช น.90+1

คลิปไฮไลท์ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ ลีก เลเวอร์คูเซ่น 2-1 เชลซี

ครึ่งแรก

สิงห์ได้ลองก่อนเลย
เริ่มมา 5 นาทีแรก เป็นทางเชลซีที่ได้โอกาสลุ้นก่อน จากจังหวะดร็อกบาได้ลองส่องในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แต่ด้วยความที่พยายามยิงด้วยเท้าซ้ายที่ไม่ถนัด บอลก็เลยหลุดกรอบออกไป

เกมไม่มีอะไรให้ลุ้นมาก
ผ่านช่วง 20 นาทีแรกไปนั้น ถือว่าในเกมนี้ยังไม่มีอะไรให้ลุ้นกันมากนัก เกมจะอยู่ตรงกลางซะส่วนมากและโอกาสยิงของทั้งสองทีมก็ถือว่าไม่ได้แตกต่าง กันสักเท่าไหร่ ยังออกได้หลายหน้าอยู่ในตอนนี้

บัลลัคเกือบยิงทีมเก่า
นาทีที่ 33 จากจังหวะต่อเนื่องของการเตะมุม เลเวอร์คูเซ่นมีโอกาสที่จะได้ลุ้นประตู ในช๊อตที่บัลลัคได้เทคตัวโหม่ง แต่บอลก็พุ่งไปอัดคานซะงั้นอย่างนั้น ทำให้จังหวะนี้ได้แค่เสียว แต่ไม่บวกสกอร์แต่อย่างใด

แมลงสาบพยายามยิง
อีก 5 นาทีต่อมา เป็นทางดร็อกบาที่พยายามจะทำประตูให้ได้อีกครั้ง แต่ด้วยความที่มุมแคบอยู่พอสมควร ทำให้จังหวะที่พยายามจะยิงนั้นมันไม่ลงล็อก บอลก็เลยพุงออกนอกกรอบไป

เกือบไปแล้ว!แมลงสาบยิงหักไม่พอ
นาทีที่ 39 เกือบจะได้ประตูแล้วสำหรับทีมเยือนเชลซี ในจังหวะที่สเตอร์ริดจ์แทงบอลทะลุให้ดร็อกบาวิ่งหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะแตะหลบผู้รักษาประตูแล้วรีบตวัดยิงทันที แต่ด้วยความที่มุมมันแคบไปหน่อย บอลเลยพุ่งหลุดข้ามคานออกไปไกลนั่นเอง

ช่วงเวลาที่เหลือ เชลซีพยายามที่จะบุกและได้โอกาสจบสกอร์อยู่เหมือนกัน เพียงแต่ยังไม่สามารถทำประตูได้ ทำให้ครึ่งแรกจบไปด้วยสกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง

สุดยอด!แมลงสาบแผลงฤทธิ์ค้าบ
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียงแค่ 3 นาที เชลซีก็มาได้ประตูขึ้นนำไปอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่สเตอร์ริดจ์ตักบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ เป็นดร็อกบาที่ดูดเอาบอลลงจังหวะแรกได้ดี ก่อนจะล็อกหลบกองหลัง แม้จะตะกุกตะกักไปนิด แต่ก็พาบอลไปได้ ก่อนที่จะล้มตัวตวัดยิงบอลผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปเสียบเสาไกลอย่างสวย งาม เชลซีได้ประตูขึ้นนำแล้ว 1-0

บัลลัคเกือบแผลงฤทธิ์
นาทีที่ 58 เกือบจะได้ประตูสุดสวยแล้วสำหรับเลเวอร์ฯ ในจังหวะทุ่มจากด้านข้างเข้าไปในกรอบเขตโทษของเชลซี จังหวะแรกโหม่งเสยก่อนที่บอลจะหลุดไปถึงบัลลัคที่จัดการตีลังกายิง บอลพุ่งโค้งเหมือนจะเสียบใต้คาน แต่ก็เป็นเช็กที่ดัดตัวปัดออกหลังไปได้ทัน

สิงห์ต้องขอบคุณเช็ก!
เป็นจังหวะต่อเนื่องเลยที่น่าได้จริงๆสำหรับเลเวอร์คูเซ่น เมื่อบอลที่ถูกกองหลังของเชลซีสกัดนั้นไปเข้าทางผู้เล่นของเลเวอร์ฯโหม่งสวน เข้าไปอีกที บอลไปเข้าเท้าบัลลัคที่ตวัดตัวยิงทันที แต่ก็ต้องชมเช็กอีกครั้งที่จังหวะนี้พุ่งออกมาบล็อกได้แบบพอดิบพอดี สกัดเอาไว้ได้ทัน

เน้นชัวร์!สิงห์ส่งอเล็กซ์ลง
นาทีที่ 69 ตอนนี้เหมือนกับว่าทางเชลซีจะเน้นสกอร์ที่นำอยู่เอาไว้แบบเต็มที่ เมื่อส่งอเล็กซ์ลงไปเล่นแทนลูอิซที่ช่วงหลังฟอร์มหายพอสมควร เพื่อเน้นควาชัวร์อ่ะไว้ก่อน

ห้างยาเล่นสวยโคตร!ไล่ตีเจ๊าแล้ว
นาทีที่ 75 เลเวอร์คูเซ่นก็มาได้ประตูตีเสมอจนได้ จากจังหวะที่ต้องบอกเลยว่าต่อบอลกันได้สวย ก่อนที่จะทะลุขึ้นไปทางซ้ายที่เช็กพยายามจะออกไปปิด แต่โดนตลบหลังด้วยการโยนบอลไปเสาสองให้เดร์ดิย็อคที่เพิ่งจะถูกเปลี่ยนตัวลง มาได้เทคตัวขึ้นโหม่งสวนไปเสาสองเข้าไปแบบลงตัวสุดๆ ทำให้ตอนนี้ทั้งสองทีมเสมอกันแล้ว 1-1

สิงห์ผงะ!โดนทีเด็ดห้างยาทดเวลา
ช่วงเวลาทดนาทีแรกในตอนที่จะจบเกมนั้น เชลซีก็มาช็อกตาตั้ง เมื่อต้องเสียประตูให้กับเลเวอร์คูเซ่นในจังหวะที่เฟรดิชได้โหม่งผ่านมือของ เช็กไปแล้วเช็ดคานเข้าประตู ทำใหพลิกกลับมาแซงเป็น 2-1 ได้สำเร็จ

จบ 90 นาที เป็นเลเวอร์คูเซ่นที่พลิกกลับมาเอาชนะเชลซีไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 ได้สำเร็จในช่วงท้ายเกม ทำให้มีเพิ่มเป็น 9 คะแนนเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว ส่วนเชลซีต้องไปลุ้นกันในนัดสุดท้ายกับบาเลนเซียที่มี 8 คะแนนเท่ากัน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น : เบรน์ด เลโน, โมเมอร์ โทปราค, มานูเอล เฟรดริช, มิเชล คาดเลค(เดร์ดิย็อค น.71), เดเนียล ชวาป(ชูน์เริล น.57), ไซม่อน รอลเฟส, ลาร์ส เบนเดอร์, ซิดนี่ย์ แซม, กอนซาโล่ คาสโตร, สเตฟาน คีสลิงก์(อ็อคซิปก้า น.83), มิคาเอล บัลลัค

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : นิโคลาย จอร์เกนเซ่น, สเตฟาน เรนาร์ตซ, ฟาเบียง เกเฟอร์

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี่, ดาวิด ลูอิซ(อเล็กซ์ น.69), โจเซ่ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช, ราอูล เมเรเลส(โอบี มิเกล น.80), แฟรงค์ แลมพาร์ด, รามิเรส, ฆวน มาต้า(มาลูด้า น.66), ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : เฟร์นานโด ตอร์เรส, รอสส์ เทิร์นบูลล์, ซาโลมอง กาลู, โจชัวร์ แม็คอีชร่าน
http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=513676&sid=5056e4cc982b9dfb14003adb24d73820

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น