ยินดีต้อนรับ
วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสโมสร
1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน
2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา
ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ
3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น
4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน
1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน
2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา
ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ
3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น
4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน
วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555
2 นัดสยอง!เรือย้ำแค้นผี 1-0 ผลต่างเทพกว่าแซงขึ้นฝูง
ศึกพรีเมียร์ลีกโค้งสุดท้ายลุ้นมันหยดติ๋งหลังศึกดาร์บี้ แมตช์ที่แฟนบอลเฝ้าจับตาทั่วโลกตัดสินกันด้วยประตูชัยของแวงซอง กอมปานีช่วงทดเจ็บครึ่งแรกทำให้พลพรรคแมนเชสเตอร์ ซิตี้เอาชนะแมนฯยูไนเต็ดหวุดหวิด 1-0 ก่อนแซงขึ้นจ่าฝูงด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่า 8 ลูกเหลือวัดใจระทึกในโปรแกรม 2 นัดสุดท้าย
พรีเมียร์ ลีก
วันจันทร์ที่ 30 เมษายน 2555
สนาม : เอติฮัด สเตเดี๊ยม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 : 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ประตู : 1-0 กอมปานี น.45+1
ไม่ต้องบอกก็รู้กันทั่วทั้งโลกว่านี่คือแมตช์ประจำฤดูกาล 2011-12 ของพรีเมียร์ ลีก เมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้เปิดรังเอติฮัด สเตเดี๊ยมต้อนรับการมาเยือนของอริร่วมเมืองอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเพื่อตัดสินกันว่าใครจะเป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้
เจ้าบ้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้พกสถิติการเล่นในบ้านที่สุดแกร่ง เมื่อพวกเขาชนะรวด เสมอเพียงแค่เกมเดียวและไม่แพ้เลยตลอด 16 เกมที่ลงเล่นมา ซ้ำยังเคยบุกไปเอาชนะแมนฯยูไนเต็ดถึงโอลด์ แทรฟฟอร์ดแบบขี้ไหลเละเทะ 6-1 อีกด้วย
ถึงอย่างนั้นทีมเยือนก็ยังมีสถิติให้ได้ใจชื้นอยู่บ้าน เมื่อ 5 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ ลีกพวกเขาบุกมาแพ้อริตัวฉกาจเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น
"เรือใบ" แม้ว่าจะมีข่าวแว่วว่าพร้อมให้โอกาสบาโลเตลลี่ลงเล่น หลังจากไปโดนไล่ออกในเกมกับอาร์เซนอลจนถูกแบนยาว แต่วันนี้นั่งเป็นสำรอง หลีกทางให้คู่หูสั้นแต่แสบอย่างอเกวโร่และเตเบซในแดนหน้าแทน
แมนฯยูไนเต็ดวันนี้เลือกที่จะดร็อปอีแวนส์และราฟาเอลเป็นเพียงแค่ตัวสำรอง โดยให้สมอลลิ่งและโจนส์ลงเล่นแทน ในขณะที่แดนหน้าฝากความหวังไว้ที่รูนี่ย์ที่ยืนเป็นตัวเป้าอยู่เพียงผู้เดียว
ครึ่งแรก
ผลัดกันบุกสนุกตั้งแต่เริ่ม
เปิดเกมมาไม่มีกั๊กเลยสำหรับทั้งสองทีม เมื่อพยายามที่จะเอาบอลมาครองแล้วบุกใส่ฝ่ายตรงข้ามทันที เริ่มจากแมนฯยูไนเต็ดทีได้กดดันก่อนที่เจ้าบ้านจะได้ไปยาวๆถึงหน้าประตู แต่โอกาสจะๆยังไม่มี
เรือพลาดได้!โจนส์ช่วยเซฟผี
นาทีที่ 16 หวิดจะเสียประตูตั้งแต่แรกไปก่อนแล้วสำหรับจ่าฝูงแมนฯยูไนเต็ด เมื่อโซนรับของพวกเขาเปิดช่อง โดนนาสรี่วิ่งเลี้ยงตี้ลากบอลผ่านทะลุเข้าไปดื้อๆ ก่อนที่จะแทงทะลุช่องให้เตเบซหลุดไปเปิดควัดผ่านเด เกอาหมายให้อเกวโร่ยิงจ่อๆ แต่เป็นโจนส์ที่ไปยืนดักสกัดทิ้งออกมาได้ทัน
กอมปานีโดนเหลืองเร็ว
นาทีที่ 20 พาลจะเล่นยากเอาง่ายๆสำหรับกอมปานี เมื่อเขาพยายามจะเข้าไปตัดจังหวะการเล่นสวนกลับของแมนฯยูไนเต็ด แต่ไปเข้าบอลเช้ากว่ารูนี่ย์ที่ปล่อยบอลออกไปได้แล้ว แม้ว่าเกมจะเล่นกันต่อ แต่สุดท้ายมาร์ริเนอร์ก็มาให้ใบเหลืองย้อนหลังกับกัปตันทีม "เรือใบ"
ผีสกัดไม่ขาด!กุนยิงแต่ไปไกลลิบ
นาทีที่ 25 พลาดเต็มๆเลยสำหรับเกมรับของแมนฯยูไนเต็ด เมื่อรูนี่ย์พยายามจะสกัดบอลแบบหวดเต็มแรงดักจังหวะโยนเข้าในเขตโทษของซิลบา แต่ดันหวดไม่ไปไหน เลยโดนหนุนสวนกลับเข้าไปอีกที บอลเข้าทางอเกวโร่ที่ไม่ต้องพูดมาก ยิงมันจังหวะแรกเลย ติดที่โดนไม่เต็มใบ เลยพุ่งข้ามคานออกหลังไปไกลลิบ
ตรงกลางการจราจรติดขัด
ผ่านครึ่งชั่วโมงเกมนี้ตรงกลางสัปดาห์มันแน่นสุดๆไปเลย มีหลายครั้งที่นักเตะแมนฯยูไนเต็ดต้องพยายามเลี่ยงโยนบอลยาวไปข้างหน้า ทำให้ไม่แม่นและเสียบอลกลับไปง่าย ส่วนแมนฯซิตี้ใช้ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะผสานกับการต่อบอลที่รวดเร็ว ทำให้กดดันแนวรับของแมนฯยูไนเต็ดได้อยู่หลายช่วง
เรือได้เสียว!กุนกระดกยิงไม่เต็ม
นาทีที่ 36 แนวรับทางซ้ายแมนฯยูไนเต็ดมีปัญหาน่าดู เพราะโดนเจาะครั้งแล้วครั้งเล่า คราวนี้โดนแมนฯซิตี้เล่นชิ่งกันจนนาสรี่หลุดเข้าไปเปิดให้อเกวโร่กระดกบอลขึ้นก่ะวอลเล่ย์เต็มๆ แต่มีเฟอร์ดินานด์เข้าไปแหย่เท้าสกัด เลยต้องอัดเบี่ยง บอลหลุดกรอบออกไป
เกมเริ่มมีเปิดขึ้นมานิดๆ
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย เกมมีการเปิดแลกกันขึ้นมาหน่อย หลังจากแมนฯยูฯโดนกดอยู่นาน ก็มีสวนมีโต้ขึ้นไปบ้าง แต่พวกเขาก็เกือบโดนจากจังหวะที่เตเบซพาบอลควบหนีสองผู้เล่นทีมเยือน ก่อนที่จะจ่ายต่อจนบอลไปถึงอเกวโร่ทางซ้าย ติดตรงตัวบล็อกเพียบ เลยยิงแฉลบออกหลังไป
เต็มเหน่ง!กอมปานีบินโขกทะลุตาข่าย
ช่วงเวลานาทีแรก แมนฯซิตี้มาได้ประตูสุดสำคัญขึ้นนำไปแบบเฮกันลั่นสนาม หลังจากเล่นคอนเนอร์อยู่หลายต่อหลายครั้งก็มาสำเร็จ เมื่อซิลบาบรรจงโยนบอลโค้งเข้าไปในเขตโทษ สมอลลิ่งพลาดหลุดจากการประกบตัวของกอมปานี เลยทำให้กัปตันทีม "เรือใบ" สบช่องโถมตัวขึ้นโขกตรงจุดนัดพบพอดิบพอดี แสกหน้าเด เกอาเข้าไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ขึนนำก่อน 1-0 ก่อนที่จะจบ 45 นาทีแรก ลุ้นกันต่อไปในครึ่งหลัง แต่ดูจากรูปเกมในครึ่งแรกแล้ว บอกได้เลยว่าแมนฯซิตี้สมควรเป็นผู้นำไปก่อนโดยแท้
ครึ่งหลัง
ยาย่าฉุนเปาทุ่มบอลโดนเหลือง
นาทีที่ 53 เก็บอารมณ์ไม่อยู่ไปหน่อยสำหรับยาย่า ในจังหวะที่เขาพยายามจะชิงเบียดกิ๊กส์ที่พยายามแตะบอลหนี แล้วเหมือนเจตนากันโดยตรง ทำให้มาร์ริเนอร์เป่าฟาวล์ เจ้าตัวไม่พอใจเลยทุ่มบอลลงซะเต็มแรง ทำให้โดนใบเหลืองไปตามระเบียบ
ปาร์คไม่เวิร์ค!ผีส่งโก๋แดนลง
อีก 5 นาทีต่อมา จำเป็นแล้วสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อเห็นว่าแผนกองกลางแน่น มันไม่แน่นอย่างที่คิด ซ้ำปาร์คยังเล่นไม่ออก ทำให้ตัดสินใจส่งเวลเบ็คลงไปเล่นแทนมิดฟิลด์เลือดโสม แน่นอนว่าเกมจะต้องเปิดขึ้น
ผีพยายามเร่งเครื่องบ้าง
หลังจากทำท่าจะดีขึ้นในต้นๆครึ่งหลัง แล้วก็โดนแมนฯซิตี้กดดันอีก แต่พอเพิ่มกองหน้าลงไปอีกตัว ตอนนี้แมนฯยูไนเต็ดก็พยายามเดินเครื่องเข้าใส่แบบเต็มที่ ถึงอย่างนั้นก็ดูกองหลัง "เรือใบ" ไม่ค่อยระแคะระคายผิวเท่าไหร่
เขี้ยวโคตร!เรือส่งเดอ ยองขันเกมรับ
นาทีที่ 68 เขี้ยวน่าดูสำหรับแมนฯซิตี้ เมื่อพวกเขาจัดการส่งเดอ ยองที่ช่ำชองในการเล่นเกมรับลงไปเสริมมิดฟิลด์ แล้วถอดเตเบซที่ดูแล้วเหมือนจะหายๆหมดๆไปเหมือนกันออกไป
เรือยังดูเฉียบกว่า
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ทั้งจังหวะการจ่ายบอลและการเล่นประสานกัน ดูแล้วทางแมนฯซิตี้ยังคงทำได้ดีกว่าแมนฯยูไนเต็ดอย่างต่อเนื่อง ดีไม่ดีจะยิงเพิ่มได้อีก เพราะแต่ละตัวจัดจ้านเหลือเกิน
ข้างสนามเดือด!มันโช่-ป๋าหวิดฟาดปาก
นาทีที่ 77 เกือบมีเรื่องมีราวกันที่ข้างสนามแล้ว เมื่อเซอร์ อเล็กซ์ไม่พอใจที่เวลเบ็คโดนเดอ ยองทำฟาวล์เลยไปโวยผู้ตัดสิน ทำให้มันชินี่ปรี่เข้าไปบอกให้เงียบปากได้แล้ว ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะตะโกนด่ากันไปมาจนต้องมีคนออกมาแยก
บีบหัวใจจริงช่วงท้าย
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย บีบหัวใจกันอย่างแรงทั้งสองทีม เพราะเวลางวดเข้ามาทุกทีและอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแม้ว่าแมนฯซิตี้จะนำอยู่ก็ตาม
เรืออัดหลัง-ผีส่งพี่หนุ่มลง
นาทีที่ 83 มีการปรับเปลี่ยนกันทั้งสองทีม เมื่อแมนฯซิตี้เปลี่ยนเอาริชาร์ดส์ลงไปเสริมความแกร่งในแนวรับ ส่วนแมนฯยูไนเต็ดทำตรงกันข้ามกันไป เมื่อส่งยังลงเล่นแทนนานี่ที่วันนี้แผลงฤทธิ์ไม่ออกเลย
ท้ายเกมแมนเชสเตอร์ ซิตี้กลับมาบดอีกครั้ง กลิชี่วิ่งเข้าไปบวกบอลที่แฉลบออกมา แต่ติดเซฟของเด เกอาที่พุ่งปัดเอาไว้ได้ดี บวกทั้งจังหวะของนาสรี่ที่ได้โอกาสยิงในเขตโทษแล้ว แต่พี่แกยึกหลายจังหวะเกินเลยอด ถึงอย่างนั้นสุดท้ายแล้วจบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี้ทำสำเร็จ เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปด้วยสกอร์ 1-0 เพียงพอให้พวกเขาพลิกแซงขึ้นไปนำจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีกด้วยประตูได้เสียที่มากกว่า ในขณะที่เหลือการแข่งขันอีกแค่ 2 เกมเท่านั้น
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท 6, โจเลี่ยน เลสค็อตต์ 7, แวนซองต์ กอมปานี 8, กาแอล กลิชี่ 7, ปาโบล ซาบาเลต้า 8, แกเร็ธ แบร์รี่ 7, ยาย่า ตูเร่ 7.5, ซาเมียร์ นาสรี่ 6.5(มิลเนอร์ - น.90), ดาวิด ซิลบา 6(ริชาร์ดส์ - น.82), แซร์คิโอ้ อเกวโร่ 7, คาร์ลอส เตเบซ 6.5(เดอ ยอง 7 น.68)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : มาริโอ บาโลเตลลี่, เอดิน เชโก้, อเล็คซานดาร์ โคลารอฟ, คอสเทล ปันติลิมง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาวิด เด เกอา 6, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 6, คริส สมอลลิ่ง 5.5, ปาทริซ เอฟร่า 5, ฟีล โจนส์ 6, ไมเคิ่ล คาร์ริค 7, พอล สโคลส์ 6(วาเลนเซีย - น.78), ปาร์ค จี ซุง 4(เวลเบ็ค 6 น.58), ไรอัน กิ๊กส์ 5.5, เวย์น รูนี่ย์ 5.5, นานี่ 6(ยัง - น.83)
ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ราฟาเอล, เบน เอมอส, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ
http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=592285&sid=eb0fd3dea434a5f66e9d9b060a55dc82
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น