ยินดีต้อนรับ
วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสโมสร
1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน
2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา
ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ
3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น
4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน
1. เพื่อเป็นการส่งเสริมด้านสุขภาพ และลดความเครียดจากการทำงาน
2. เพื่อเป็นการตอบสนองสมาชิกที่อยากเล่นบอล แต่ไปขอใครเล่นเขา
ก็ไม่ให่เล่น จึงคิดตั้งสโมสรขึ้นมาเล่นเอง ฮิฮิ
3. เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ที่ทำงานกันที่อื่น
4. วัตถุประสงค์สุดท้ายคือ หาเรื่องไปหาอารัยกินกัน
วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
สองรุมหนึ่ง เชลซี กับ ลิเวอร์พูล
นอกเหนือจากศึกชิงตำแหน่งทีมไร้พ่ายระหว่างแมนฯ ซิตี้กับนิวคาสเซิ่ลแล้ว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์นี้ยังมีเกมที่น่าสนใจไม่แพ้กันอีกคู่
นั่นคือการห้ำหั่นกันระหว่าง เชลซี กับ ลิเวอร์พูล ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ในวันอาทิตย์
ทั้งนี้เพราะนอกจากจะต้องพยายามเก็บสามแต้มให้ได้ด้วยกันหลัง จากผลงานออกจะลุ่มๆดอนๆทั้งคู่แล้ว ยังน่าจะมีความกินแหนงแคลงใจกันระหว่างแฟนบอล, นักเตะและกุนซือของสองสโมสรเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ยังไม่แน่ว่าทั้งสองทีมจะจัดทัพอย่างไร แต่ที่แน่ๆอดีตสตาร์ของลิเวอร์พูลนาม เฟร์นานโด ตอร์เรส ปันใจย้ายมาค้าเกือกกับเชลซีแล้ว
ยิ่งยังระเบิดฟอร์มเก่งไม่ได้สักทีนับตั้งแต่เปลี่ยนมาสวมยูนิฟอร์มสิงห์บลูส์ เจ้าของฉายา "เอล นินโญ่" ย่อมกระหายสอยตาข่ายทีมเก่าเช่นกันเพื่อพิสูจน์ให้เดอะค๊อปและใครต่อใครเห็นว่าตัวเองยังไม่ถึงกับบ่มิไก๊อย่างที่โดนเย้ย
คอลัมน์ : ศุกร์ๆ ดิบๆ โดย.. ธีระ
http://www.siamsport.co.th/Column/111118_145.html
นอกจากตอร์เรสแล้ว ราอูล เมยเรเลส มิดฟิลด์โปรตุกีสก็เป็นอีกรายที่อำลาแอนฟิลด์ไปร่วมหอลงโรงกับทีมมหาเศรษฐี
แถมยังสร้างความคลางแคลงใจให้กับใครหลายคนด้วยเพราะจู่ๆก็ได้ไฟเขียวจากหงส์แดงให้ย้ายสังกัดได้ในนาทีสุดท้ายก่อนปิดตลาด
พอมีคิวดวลกันอย่างนี้ จึงเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายน่าจะต้องการสะสางบัญชีกันไม่มากก็น้อยตามวิถีทางของเกมการแข่งขัน
โดยเฉพาะเชลซีภายใต้การบัญชาของ อันเดร วิลลาช โบอาช ชักจะมีผลงานที่กระท่อนกระแท่นมากขึ้นเรื่อยๆเพราะสะสมความพ่ายแพ้ไปแล้วถึงสามเกม
อีกทั้งนัดล่าสุดก็เฉือนแบล็คเบิร์นไปแบบหืดจับ 1-0 ยังไล่หลังทีมเรือใบจ่าฝูงมากถึงเก้าแต้ม
ด้านลิเวอร์พูลก็ดีๆแย่ๆไม่แพ้กัน แม้จะไม่ปราชัยให้ใครในทุกรายการรวมแปดนัดแล้ว แต่เป็นการเสมอในลีกสามจากสี่นัดหลัง ทิ้งแต้มตกหล่นเรี่ยราดสิ้นดี
ล่าสุดก็ถูกสวอนซีบุกมาแชร์แต้มได้ถึงรัง ยังแก้ปัญหาใช้โอกาสเปลืองไม่สำเร็จสักที
ทั้งหลายทั้งปวงนี้จึงคาดว่าเกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์น่าจะเปี่ยมไปด้วยความเร้าใจชนิดเต็มพิกัด
หนำซ้ำยังจะน่าติดตามซะยิ่งกว่าเกมที่เอติฮัด สเตเดี้ยมซะอีกว่าตกลงเรือใบกับสาลิกาดงใครจะเสียสถิติพ่ายก่อนกัน?
http://www.siamsport.co.th/Column/111118_145.html
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น